ต่อเติมห้องแฟมิลี่ที่โปร่งสว่างเชื่อมต่อกับสวน
Wisteria House เป็นตัวอย่างหนึ่งของการก่อสร้างด้วยไม้ที่เรียบง่ายและสะอาดตา และเป็นส่วนขยายร่วมสมัยของอาคารสไตล์โคโลเนียลที่ได้รับการปรับปรุงใหม่อยู่ทางตะวันตกตอนในของซิดนีย์ รูปแบบใหม่นี้เน้นการเปิดรับแสงแดดและเชื่อมโยงพื้นที่อยู่อาศัยกับธรรมชาติในทุกมิติ ซึ่งไม่มีในบ้านหลังเก่า ส่วนใหม่ของการออกแบบโดยสถาปนิก Carter Williamson เสริมด้วยสวนสวยที่เต็มไปด้วยเฉดสีม่วงของดอกวิสทีเรียและต้นศรีตรัง สร้างการตกแต่งภายในที่อบอุ่นและการมีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว
ออกแบบ: Carter Williamson Architects
ภาพถ่าย: Pablo Veiga
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านเดิมตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้กันว่าในออสเตรเลียจะห้ามรื้อถอนอาคารเก่าก่อนได้รับอนุญาต เจ้าของบ้านส่วนใหญ่จึงเลือกต่อเติมส่วนใช้งานใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากขึ้นในบริเวณอื่นๆ ในบ้านนี้จะสร้างพื้นที่เปิดโล่งและอบอุ่นในสไตล์ร่วมสมัยที่เสริมการพัฒนาที่มีอยู่อยู่ด้านหลัง เป็นบ้านสองชั้นที่มีเฉลียงกว้างเหมือนศาลาที่สว่างและกว้างขวางแสดง โครงสร้างเป็นจังหวะระหว่างไม้แอชและกรจก บ้านเปิดกว้างจากหลายด้านสู่สวน และสัมผัสกับพื้นที่เขียวขจีโดยรอบอย่างต่อเนื่องช่วยเสริมกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่เรียบง่าย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
แม้ว่าบ้านจะต้องการแสงให้สว่างและอบอุ่น แต่ก็ต้องมีฟังก์ชันปกป้องแสงที่อาจเกินความจำเป็นในบางเวลา ทีมงานใช้วิธีออกแบบให้ด้านหนึ่งเน้นความเปิดกว้างและอีกด้านหนึ่งป้องกันแสงแดดและความร้อนในฤดูร้อน ชั้นล่างมีหลังคาเฉลียงช่วยไม่ได้แดดล้วงเข้าไปด้านในมาก และยังใช้ไม้เลื้อยช่วยกรองแสง ส่วนชั้นบนจะใช้แผ่นไม้ติดตั้งในแนวทแยง เพื่อเบี่ยงองศาของแสง ในขณะที่ยังคงมองเห็นนอกบ้านอย่างเป็นส่วนตัว
ในชั้นล่างจะแบ่งพื้นที่ใช้งานหลักๆ เป็นสองส่วน คือ ส่วนพื้นที่นั่งเล่นกับห้องทำงาน และโซนครัวกับห้องทานอาหาร ซึ่งจะถูกแบ่งคั่นด้วยบันไดและคอร์ทยาร์ด แต่ก็เปิดพื้นที่ในแนวนอนให้สามารถเดินเข้าถึงกันได้หมด เหนือพื้นที่นั่งเล่นเป็นโถงสูงที่ช่วยให้เกิดการกระจายแสง การไหลเวียนอากาศ และเป็นช่องว่างแนวตั้งที่จะรวมพื้นที่ส่วนตัวชั้นบนเข้ากับพื้นที่พักผ่อนที่อยู่ด้านล่าง การวางแปลนอย่างรอบคอบสร้างพื้นที่ที่สะดวกสบายสำหรับการโต้ตอบที่เกิดขึ้นในมุมต่างๆ ของบ้าน เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในบรรยากาศและสุนทรียศาสตร์ แสดงถึง “ความอบอุ่น ความสุข และความเอื้ออาทร”
กระจกบ้านในตำแหน่งต่างๆ กำหนดกรอบมุมมองของสวนที่น่าหลงใหลอย่างเป็นจังหวะ เมื่อภาพธรรมชาติอยู่ตรงหน้าจะปล่อยทิ้งไว้ก็น่าเสียดาย จึงทำเบย์วินโดว์นั่งเล่นชมสวนได้จากในบ้าน อีกด้านหนึ่งเพิ่มฟังก์ชันโต๊ะทำงานในรูปแบบของเคาน์เตอร์ไม้ มีช่องเก็บของ และโต๊ะทำงานที่อยู่สร้างขึ้นใต้หน้าต่าง ทุกครั้งที่นั่งทำงานสามารถปล่อยสายตาออกไปรับธรรมชาติได้
อาคารใหม่เชื่อมต่อกับบ้านที่มีอยู่จะมีภูมิประเทศเป็นเนิน ทีมงานจึงใช้บันไดเป็นตัวเชื่อมไล่ระดับลงมายังส่วนครัว และไหลลงไปยังสนามหญ้าหลังบ้าน พื้นที่ทั้งหมดล้อมรอบด้วยไม้และหน้าต่างเพื่อให้สามารถระบายอากาศได้ มีสวนขนาดเล็กขนาบข้างบันไดเพื่อแยกส่วนใหม่ออกจากบ้านที่มีอยู่ ในขณะเดียวกันก็ส่องสว่างพื้นที่ภายในและให้อากาศไหลเวียนทั่วบ้าน
ช่องแสง ในขุดต่างๆ ของบ้านไม่ได้ทำหน้าที่แค่ดึงแสงเข้ามาเพิ่มความสว่างไสวภายใน แต่ยังกลายเป็นพื้นที่หายใจให้บ้านด้วย อย่างเช่น ช่องว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าที่จัดไว้ไว้ระหว่างบ้านสองส่วน ได้รับการออกแบบด้วยความตั้งใจอย่างพิถีพิถัน เพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่รับแสง ลม และยังเป็นจุดเปลี่ยนผ่าน เครื่องมือนำทาง และโอกาสในการปรับทิศทาง จากช่องว่างนั้นจะมองเห็นประตูหน้าและธรณีประตู Arch โค้ง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จงใจให้สัญญาณในการแนะนำการแทรกแซงอย่างอ่อนโยน
อิฐ ปูนเปลือยขัดมัน โครงไม้ เหล็กและหินอ่อน เป็นวัสดุที่สะท้อนถึงความเรียบง่ายของการออกแบบทั้งหมด การรวมตัวกันของสีอ่อนๆ ที่ไม่ฉูดฉาด สร้างการตกแต่งภายในที่สะอาดและประณีตซึ่งมีทั้งความอบอุ่นและสดใสในทุกตารางเมตร แต่จุดหนึ่งที่สะดุดตาคือ บันไดกว้างที่ทำจากคอนกรีตและท่อนไม้สลับกัน นอกจากจะเป็นทางเข้าพื้นที่ใหม่ที่ใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติต่างกันอย่างสิ้นเชิงมาอยู่ด้วยกันได้แบบเก๋ ๆ แล้วยังใช้เป็นที่นั่งสบายอีกด้วย
ในบ้านจะปลูกไม้เลื้อยใบเขียว ๆ แล้วปล่อยให้ต้นไม้ห้อยลงมาเหมือนม่านในช่องว่างเพดานสูง สร้างบรรยากาศของการพักผ่อน เพิ่มความผ่อนคลาย และใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นอีก เหมือนบ้านกลายเป็นกระถางใบใหญ่
สำหรับห้องนอนและห้องน้ำที่อยู่ข้างบน จะมีมุมมองที่เปิดออกไปเห็นวิวดอกไม้สีม่วงสวย ท้องฟ้าใส ๆ เป็นออกแบบตามบริบทสร้างสมดุลระหว่างรูปแบบและฟังก์ชันได้อย่างสมบูรณ์
