
สร้างบ้านตามใจ ใช้ชีวิตที่ชอบได้ทุกมุม
การสร้างบ้านสักหลังเจ้าของบ้านมักจะมีภาพในใจอยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีรูปทรงบ้าน หรือสิ่งที่เป็นโจทย์ตั้งเอาไว้ว่าความต้องการหลัก ๆ ที่จะใช้งานมีอะไรบ้าง เช่น มีกี่ห้อง จุดนั่งเล่น สวน ทิศทางรับแสง มุมเปิดรับลม อาจจะไม่ซับซ้อนมากแต่ก็พอจะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งในส่วนของการออกแบบให้บ้านเหมาะกับความต้องการ และตอบรับกับภูมิประเทศ ภูมิอากาศ บางครั้งต้องมีสถาปนิกมาทำงานด้วยกันเพื่อให้ตอบโจทย์ได้ตรงใจยิ่งขึ้นและต้องอยู่ได้สบาย เหมือนเช่นบ้านหลังนี้ในบราซิลที่ทุกฝ่ายร่วมแชร์ไอเดีย จนได้ผลงานออกมาเป็นบ้านที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิต เอาใจผู้อยู่ในทุกมุมครับ
ออกแบบ : Rassini Arquitetura
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพใดๆ เพื่อรับชมภาพในขนาดใหญ่
หลังจากที่เจ้าของบ้านเลือกพื้นที่ 1,150 ตารางเมตร ที่ Itatiba ใกล้ๆ กับเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ทีมงาน Rassini Arquitetura โดยสถาปนิก Felipe Rassini จึงพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นเดียว โดยได้แรงบันดาลใจจาก Mies Van Der Rohe Pavilion ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองบาร์เซโลนา สถาปนิกเน้นการใช้กระจกขนาดใหญ่มาช่วยในการดึงแสงและธรรมชาติที่มีรอบล้อมของบ้าน ให้กระจายความสว่างและสดชื่นเข้ามาในตัวบ้านตามจุดที่บ้านต้องการ
โจทย์ในการสร้างบ้านนี้เจ้าของบ้านเน้นการเชื่อมต่อระหว่างสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกอาคาร บ้านควรมีเส้นสายสะอาดและชัดเจน พร้อมความสะดวกสบาย ไม่เล็กหรือใหญ่ สร้างด้วยวัสดุที่บำรุงรักษาง่าย วิธีแก้โจทย์แรกที่สถาปนิกทำคือ การสร้างอาคารขนาด 6×3 เมตร วัสดุหลักเป็นคอนกรีต ไม้ กระจก เชื่อมต่อสวนอย่างแนบเนียบด้วยแผ่นทางเดินหินรอบบ้าน
ตัวบ้านวางอยู่บนเนินในลักษณะอาคารชั้นเดียว 2 หลังขนานกัน และมีทางเดินเชื่อมต่อระหว่างอาคาร ทำให้กลายเป็นอาคารรูปตัว U ที่มีพื้นที่ว่างตรงกลาง สามารถจัดเป็นคอร์ทเขียว ๆ ปลูกต้นไม้เอาไว้ช่วยบังแสงแดดเมื่อต้นเติบใหญ่
โถงทางเดินที่เชื่อมระหว่างอาคารติดกระจกตลอดทาง วางแท่งไม้เป็นระแนงเป็นระยะ ช่วยเพิ่มมิติทางสายตาให้กับบ้าน
อาคารทางด้านขวาขนาด 6×3 เมตร เป็นหลังคาทรงเพิงหมาแหงนเทลาดเอียงลงด้านหนึ่ง ส่วนที่ยกสูงขึ้นทำให้มีพื้นที่ระหว่างพื้นถึงหลังคามากถึง 4.5 เมตร เมื่อบวกกับการเปลือยฝ้าเพดาน และใส่ช่องรับแสงบริเวณใต้หลังคา บ้านจึงดูสูงและโปร่งเบา ความสูงของหลังคายังทำให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและระบายออกจากตัวบ้านได้ดี
การจัดพื้นที่ภายในเป็นแบบเปิดโล่ง Open plan รวมเอาฟังก์ชั่นการใช้ชีวิตหลายอย่างในห้องเดียว ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว โดยใช้ตัวเฟอร์นิเจอร์บอกขอบเขตการใช้งาน ทุกคนในบ้านสามารถใช้ห้องนี้ทำกิจกรรมที่แตกต่างในพื้นที่เดียว สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในบ้านให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
การตกแต่งภายในเน้นโทนสีธรรมชาติ อย่างกระเบื้องสีน้ำตาลของไม้ กระเบื้องปูพื้นพอร์ซเลนสีเทา พรมสีน้ำตาลอ่อน โซฟาบุผ้า เก้าอี้หนัง เป็นต้น ทีมงานเลือกโซฟารูปตัว “L” ซึ่งเหมาะสำหรับการเพลิดเพลินกับพื้นที่ส่วนตัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ใกล้ ๆ กันวางเก้าอี้ยาว Charles Eames สำหรับการนั่งเอนหลังสบาย ๆ อ่านหนังสือยามเช้า รอบ ๆ ห้องเป็นผนังกระจกไม่ว่าจะอยู่จุดใดก็ได้รับทิวทัศน์สีเขียวภายนอกได้เต็มที่ และยังช่วยลดภาระของไฟฟ้าส่องสว่างในช่วงกลางวันได้ดี
ถัดจากมุมนั่งเล่นจะเป็นโต๊ะทานอาหาร และส่วนครัวเปิดที่อยู่ท้ายสุด เป็นครัวเรียบง่ายเพียงแค่บิวท์ไอสแลนด์ปูนเปลือยท็อปสีขาวขนาดใหญ่ บนเคาน์เตอร์ติดตั้งเตาแก๊สพร้อมฮู้ดดูดควัน ทั้งเตรียมและปรุงอาหารในจุดเดียว โดยไม่ต้องกลัวควันรบกวนพื้นที่ใช้งานอื่น ๆ
ฝั่งที่ติดหน้าต่างเป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหารและซิงค์ล้างบานไม้ ทำให้มุมนี้ไม่ดูแข็งกระด้างจนเกินไป หน้าต่างช่วยระบายกลิ่น ควัน รับแสงธรรมชาติเข้ามาลดความชื้นภายใน กระเบื้องปูพื้นพอร์ซเลนสีเทาแผ่นใหญ่ทำความสะอาดง่าย
ที่นี่มีครัวอยู่ในทุกอาคารทั้งหมด 3 ครัว ทำให้แยกใช้งานได้โดยไม่รบกวนกัน แต่ละจุดเน้นการใช้งานแบบง่าย ๆ รองรับการใช้งานทั้งหนักและเบา เลือกใช้งานได้ในโอกาสต่าง ๆ กันตามความเหมาะสม
ในอาคารฝั่งตรงข้ามเพิ่งหมาแหงนจะเป็นส่วนตัวกว่า ประกอบด้วย 3 ห้องนอน ห้องน้ำ และครัว ทุกห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่หันหน้าออกไปรับวิวสนามหญ้าและสระน้ำ ทำให้บ้านนี้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างอาคารกับอาคาร และอาคารกับสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดี จัดแบ่งฟังก์ชั่นของแต่ละจุดของบ้านอย่างชัดเจน ตรงกับความตั้งใจของผู้อยู่อาศัย