บ้านสองชั้นโมเดิร์นรับธรรมชาติ

ในเมืองที่มีแสงสีศิวิไลซ์ตระการตา ใช่ว่าจะหาความเงียบสงบได้ง่าย ๆ หลายคนจึงตัดสินใจปลีกตัวเองออกจากความวุ่นวายนั้น ไปสู่พื้นที่ห่างไกลชุมชน มีธรรมชาติรอบด้าน เพื่อให้ร่างกายได้พักฟังเสียงจากหัวใจของตัวเองอย่างชัดเจนเสียที เช่นเดียวกับเจ้าของบ้านหลังนี้ คู่สามี-ภรรยาสายออแกนิคที่อยากใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลาย โดยไร้สิ่งใด ๆ มารบกวน

ออกแบบ : Conner-Perry
ภาพถ่าย : Taiyo Watanabe
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่

เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1940 ที่แห่งนี้เคยเป็นกระท่อมไม้หลังเก่าที่สร้างไว้ท่ามกลางสวนยูคาลิปตัส เพื่อให้บริบทของบ้านยังสอดคล้องไปกับบริบทเดิม จึงออกแบบบ้านให้อิงแอบไปด้วยกัน รูปทรงของบ้านสองชั้นเว้นคอร์ทตรงกลางคล้ายผังบ้านรูปตัว U ดึงแสงแดด สายลมและความฉ่ำเย็นจากธรรมชาติให้เข้าไปมีส่วนร่วมกับพื้นที่ภายในอย่างทั่วถึง

ผนังภายนอกไม่ขัดแย้งกับสีเขียวขจีที่ร่ายล้อมอยู่ทั่วบริเวณ ด้วย “SHOU SUGI BAN” หรือการนำแผ่นไม้มาเผาไฟให้ไหม้ เกิดเป็นโทนสีเข้ม ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ปกป้องแสงแดดตอนกลางวันด้วยปีกหลังคาที่ยื่นออกมาปกคลุมรอบด้าน ทั้งยังช่วยกันฝนสาดไปด้วยในตัว

ความตั้งใจที่จะสร้างความกลมเกลียวระหว่างพื้นที่ภายนอกกับภายใน เห็นได้ชัดเจนจากการดีไซน์ห้องและมุมต่าง ๆ ของบ้านให้มองเห็นต้นไม้ใหญ่อยู่เสมอ มุมนั่งเล่นและห้องทำงานถูกกั้นกลางด้วยสวนหย่อม เชื่อมต่อกันด้วยแผ่นทางเดินคอนกรีต นอกจากมองเห็นซึ่งกันและกันตลอดเวลา ยังไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวก

โซนหลังบ้านค่อนข้างเปิดกว้างกว่าโซนด้านหน้า ออกแบบให้มีอารมณ์คลับคล้ายคลับคลากับบ้านมีใต้ถุน ประตูกระจกซ่อนผนังที่เลื่อนเปิดกว้างได้ถึงสองด้าน ทำให้มองเห็นทั้งวิวสระว่ายน้ำที่เป็นเหมือนประธานหลัก กับทั้งยังมองเห็นสนามหญ้าสีเขียวที่เชื่อมต่อกับระเบียงด้านหลัง รับแสง รับลม เป็นช่องทางที่ให้ธรรมชาติได้ทะลุผ่านไปผ่านมาได้ตลอดทั้งวัน

ครัวภายในบ้านที่ให้อารมณ์เหมือนครัวนอกบ้าน เพราะมีผนังที่เปิดโปร่งได้อย่างกว้างขวาง

ห้องนอนมาสเตอร์ตกแต่งอย่างประณีตแต่เรียบง่าย คุมธีมด้วยสีขาว เทาและน้ำตาล ให้ความรู้สึกสบายตาชวนให้ล้มตัวลงตัว ไม่จำเป็นต้องมีโทรทัศน์มาสร้างความบันเทิง เพราะแค่มองผ่านประตูกระจกออกไป จะพบกับความเขียวขจีที่คอยกล่อมให้นอนหลับโดยไม่ต้องอาศัยละครหรือเสียงเพลงเลย

เล่นระดับพื้นระหว่างพื้นที่ทำและทานอาหารกับมุมนั่งเล่นให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น

ผนังชั้นล่างเปิดโปร่งเต็มบานแล้ว ผนังชั้นบนจึงไม่จำเป็นต้องเปิดกว้างในลักษณะเดียวกัน เพื่อสร้างความสมดุลของรูปลักษณ์ให้กับตัวบ้าน และให้ความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิตอย่างเป็นส่วนตัว