
บ้านต้นไม้อยู่ร่วมกับธรรมชาติจากวัสดุรีไซเคิล
หากเราแต่ละคนพยายามนำสิ่งของที่ถือเป็น “เศษซาก” มาใช้ซ้ำหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากที่สุดก็คงจะดี บางครั้งวัสดุนั้นๆ อาจเปลี่ยนสีหรือสภาพไปไม่เหมือนเดิม เพราะผ่านสภาวะแวดล้อมที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่หลงเลือนั้นกลับสร้างคุณค่าใหม่ๆ ได้เช่นกัน เหมือนบ้านหลังนี้ในเวียดนาม ที่นอกจากจะเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นหลัก เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่ได้รู้ว่า Nature Mother ได้มอบสิ่งดีๆ อะไรไว้ให้เรา และยังมีพื้นที่ให้เล่นสนุกบนบ้าน “ต้นไม้” นี่คือของขวัญที่ปู่ต้องการมอบให้ลูกหลาน เพื่อให้พวกเขาได้วิ่ง กระโดด และเล่นได้อย่างอิสระ
ออกแบบ : H.2 workshop
ภาพถ่าย : Dũng Huỳnh
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
แม้เวลาผ่านไปกว่า 70 ปี เจ้าของบ้านหลังนี้ยังคงจำเรื่องราวในวัยเด็กของเขาได้อย่างชัดเจน “ทุกๆ ฤดูร้อน เด็กๆ จะพากันมาสร้างกระท่อมหลังเล็กๆ ใต้ร่มเงาของต้นไม้เก่าแก่ บ้างก็ตัดกิ่งไม้ บ้างก็ตัดใบไม้มาทำหลังคา แล้วร่วมกันตกแต่งให้สวยงาม กระท่อมมุงใบไม้ที่เรียกว่า ‘บ้าน’ นี้ เป็นทั้งสถานที่หลบแดดและเล่นสนุกสนาน และเป็นพื้นที่ความทรงจำวัยเด็กของเรา ทุกอย่างดูเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้” นี่คือเรื่องราวที่ชายสูงอายุของครอบครัวเล่าให้สถาปนิกฟัง
เจ้าของหวังว่าบ้านจะนำประสบการณ์การเล่น การเรียนรู้ การเชื่อมโยง ฯลฯ เพื่อให้หลานๆได้เติบโตมาในความรักกับธรรมชาติ และมีประสบการณ์ในวัยเด็กที่น่าประทับใจ จากความปรารถนาดังกล่าว โครงการ “บ้านต้นไม้ริมทะเลสาบ” ในพื้นที่ 30 ตารางวา จึงเริ่มต้นขึ้นภายใต้ร่มเงาของป่ายืนต้น พร้อมทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทอันเงียบสงบ ตัวอาคารมีสองชั้นบ้านลักษณะเหมือนบ้านต้นไม้ยกสูงเหนือพื้นดิน เพื่อรับลมจากทะเลสาบ ให้อาคารโปร่งสบายที่รู้สึกเย็นอยู่เสมอโดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศและอุปกรณ์ทันสมัยอื่นๆ
รูปแบบของบ้านนั้นดูเรียบง่ายในภายนอก ชั้นบนยื่นออกไปเหนือชั้นล่างด้วยปริมาตรรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หุ้มด้วยแผ่นสังกะสีลูกฟูกเก่า ๆ ทำให้ดูเหมือนว่าชั้นนั้น “ลอย” อยู่ ส่วนชั้นล่างดูเผินๆ เหมือนเป็นใต้ถุนโล่งๆ แต่จริงๆ แล้วมีผนังเป็นประตูกระจกบานหมุนขนาดใหญ่เปิดออกสู่สวนและภูมิทัศน์โดยรอบ
สำหรับฟังก์ชันชั้นล่างจะมีห้องนั่งเล่น ห้องครัว – ห้องรับประทานอาหาร ภายในห้องนั่งเล่นชั้นล่างมีต้นไม้ใหญ่โตทะลุพื้นเพดานขึ้นไปในตัวบ้าน ทำให้อาคารนี้ดูราวกับ “เติบโต” ขึ้นมาจากพื้นดิน ใกล้ๆ มุมนั่งเล่นมีบันไดวนตรงกลางนำไปสู่ชั้นบนและมีทางเดินไม้กว้างขวาง ขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแต่ละก้าวเหมือนกำลังปีนขึ้นต้นไม้ทีละนิด ๆ
เมื่อขึ้นมาสู่ชั้นบนจะต้องแปลกตาแปลกใจราวกับว่ากำลังอยู่ในโลกที่ไม่มีอยู่จริง กับพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางกลางบ้านที่มีผนังโค้ง หลังคาโปร่ง และตาข่ายเชือกยักษ์การตกแต่งทางเดินภายในและภายนอกบ้านด้วยกระจก โดยเฉพาะบนหลังคาจั่วที่เปิดวิสัยทัศน์บ้านให้มองเห็นยอดไม้และท้องฟ้าได้ และจุดที่สะดุดตาที่สุดจุดหนึ่งคือ หน้าต่างเหล็กรูปวงรีขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางทางเดิน พร้อมฟังก์ชั่นเป็นสถานที่นั่งเล่นพักผ่อนที่มองเห็นป่าไม้ข้างนอก ให้ความรู้สึกดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
ในพื้นที่บ้านหลังใหม่ เด็กๆ ดูตื่นเต้นมากที่ได้มีโอกาสปลุกสัญชาตญาณโดยธรรมชาติในการสำรวจ เรียนรู้ และเล่นทั้งภายในและภายนอกน ไม่ว่าจะนั่งเล่นบนพื้นดินข้างล่าง วิ่งเล่นรอบๆ สวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ หรือจัดแคมป์รอบกองไฟในฤดูหนาว ในบ้านก็สามารถกระโดด ปีนป่าย หรือแม้แต่นอน คลาน ปีนกำแพงได้อย่างอิสระตามที่พวกเขาต้องการ
ผนังสังกะสีผุ ๆ ที่เคยถูกรื้อทิ้งจากที่อื่น ถูกนำมาสร้างสรรค์ใหม่ใช้ตกแต่งในบ้านให้สีตามธรรมชาติ ที่แสดงถึงร่องรอยของกาลเวลา มองดูเผินๆ คล้ายกับสีของเปลือกไม้ จำลองสัมผัสของต้นไม้ได้อย่างน่าทึ่ง เป็นหนึ่งกลวิธีสอนให้เด็ก ๆ เคารพธรรมชาติในฐานะเพื่อนอันล้ำค่า
นอกจากพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนตามอัธยาศัยแล้ว ชั้น 2 ยังมี 2 ห้องนอนสำหรับพ่อแม่และลูกสาวตัวน้อย ที่ปล่อยให้ต้นไม้ผสมผสานเข้ากับการออกแบบของบ้านโดยตรงผ่านช่องว่างบนหลังคาระเบียง
โครงสร้างบ้านหลายๆ ส่วนเป็น เศษเหล็ก แผ่นสังกะสีขึ้นสนิม มาใช้ใหม่ในลักษณะที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด สีสันที่ถูกแต่งแต้มด้วยกาลเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาคุณสมบัติที่จำเป็นของอาคารไว้ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวที่จำเป็น ความสะดวกสบาย ความยืดหยุ่น พื้นที่เปิดรับแสงแดด ลม และต้นไม้
แปลนบ้าน