บ้านสไตล์ทรอปิคอลใต้ถุนสูง

หน้าร้อนสำหรับเขตร้อนชื้นอาจเป็นเหมือนยาขมสำหรับใครหลาย ๆ คน ด้วยอากาศที่ร้อนขัดจนรู้สึกหงุดหงิดไม่สบายตัว แต่สำหรับบางคนที่ยังคงชอบเสน่ห์ความมีชีวิตชีวาของฤดูร้อน ก็ยังคงอยากไปสักที่ที่จะใช้ชีวิตชิล ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติ มีลมเอื่อย สายน้ำเย็น กลบความรู้สึกร้อนให้หายไปได้บ้าง โครงการบ้านพักตากอากาศชื่อ summer house เป็นบ้านพักตากอากาศที่สร้างขึ้นโดยสตูดิโอ Taliesyn สำหรับครอบครัวในเขตชนบทของอินเดีย ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างความต่อเนื่องตามจังหวะชีวิตตามธรรมชาติ เป็นบ้านพักตากอากาศที่เต็มไปด้วยช่องว่างและความสดชื่น

ออกแบบ : Taliesyn Design & Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้รายล้อมธรรมชาติ

โครงการบ้านพักตากอากาศบนพื้นที่ 487 ตร.ม นี้ ตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มและมะพร้าวของบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย สถาปนิกได้ย้อนจินตนาการถึงการใช้ชีวิตสบาย ๆ ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ จึงออกแบบบ้านให้เต็มไปด้วยช่องเปิดกว้าง ๆ โล่ง ๆ เพื่อเบลอขอบเขตภายในภายนอกให้เชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดกับภูมิทัศน์โดยรอบ เปิดออกสู่ความงามอันน่าทึ่งของ Savandurga Hill ซึ่งเป็นหนึ่งในเนินเสาหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ที่ Summer House แรงผลักดันทางสถาปัตยกรรม คือ การสัมผัสกับประสบการณ์ 360 องศาของสิ่งแวดล้อม ตัวอาคารจึงได้รับการออกแบบโดยใช้เส้นสายที่สะอาดตาและคมชัด เป็นรูปแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมัยใหม่ แต่เน้นการสร้างพื้นที่ใช้สอยแบบเปิดโล่ง เพื่อรับลมชมวิวโดยรอบให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในชั้นล่างที่เหมือนใต้ถุนบ้าน ซึ่งบ้านสไตล์นี้เหมาะสภาพอากาศเขตร้อนชื้น Tropical ที่ต้องการลมโกรกและลดความชื้นไปพร้อมกัน

เลือกวัสดุที่กลมกลืนธรรมชาติ

ความท้าทายต่อมา คือ การสร้างพื้นที่ที่กลมกลืนอยู่ในบริบททางธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้คืออาคารที่ทำจากคอนกรีต หินที่มาจากท้องถิ่น เช่น Sadarahalli , Pink Magadi อิฐที่สร้างขึ้นในแหล่งกำเนิดจากที่ดินโดยรอบ และไม้โอ๊ควู้ด เป็นหลอมรวมกับวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นได้อย่างที่ตั้งใจ ในขณะเดียวกันความต่างของวัสดุเหล่านี้ก็ให้ความรู้สึกสลับกันไปมาระหว่างความนุ่มนวลและความหยาบทั้งภายในและภายนอก ซึ่งจับเข้าคู่กันแล้วลงตัวพอดี

สงบ ร่มรื่น ไม่วุ่นวาย

อีกหนึ่งแนวคิดที่ตามมาคือ ความต้องการให้บ้านเป็นสถานที่ปลดเปลื้องความวุ่นวายของชีวิตในเมือง โดยให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสงบเสมือนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสถาปนิกตีความออกมาเป็นอาคารคอนกรีตเสาสูงเหมือนศาลาดูโอ่โถงน่าเกรงขาม 1 อาคาร และบ้านหลักที่มีสองชั้นเป็นบ้านผนังบานเกล็ดไม้ชัตเตอร์ ด้านล่างเป็นโครงคอนกรีตเปิดโล่งทุกด้านอีก 1 อาคาร

บริเวณบ้านสองชั้นนั้น จัดพื้นที่ข้างล่างเป็นมุมนั่งเล่น ทานข้าว เป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกัน ข้าง ๆ มีสนามหญ้า สวน และมีสระว่ายน้ำขนานไปกับตัวบ้าน ซึ่งเจ้าของสามารถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับงานเลี้ยงส่วนตัว งานทางการ และแม้แต่การแสดงงานศิลปะได้ตามชอบใจ

ศาลาเสาคอนกรีตที่ใช้งานได้หลากหลาย นอกจากจะใช้งานกันเองในครอบครัวแล้ว เจ้าของบ้านยังอนุญาตให้ชาวบ้านรอบข้างเข้ามาใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นห้องเรียน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อที่ต้องการ Space โล่ง ๆ ให้เว้นระยะห่างได้

ผนังที่เปิดปิดได้ตามสถานการณ์

ชั้นบนของบ้านเป็นโซนใช้ชีวิตส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมาก เช่น ห้องทำงาน ห้องน้ำ ห้องนอน ซึ่งจะมีความพิเศษตรงที่ผนังระบายอากาศได้ โดยใช้บานเกล็ดไม้ชัตเตอร์รูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูงจรดเพดานติดตั้งรอบห้องนอน และระหว่างมุมนั่งเล่นในอาคารกับพื้นที่นั่งชมวิวที่ระเบียง การออกแบบผนังที่มีช่องว่างนี้เพื่อลดอุณหภูมิภายใน ทำให้มีการไหลเวียนที่ดีขึ้นและมีแสงสว่างตามธรรมชาติตลอดทั้งวัน ในช่วงที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสำหรับพักผ่อนก็ปิดเอาไว้ ทำให้บ้านหลังนี้เป็นเสมือนรังที่โปร่งโล่ง ลื่นไหล แต่ปลอดภัย