เครื่องฟอกอากาศรถยนต์ Atem Car

ความสุนทรียภาพขณะขับรถจะลดลงทุกครั้ง เมื่อได้กลิ่นเขม่าควันรถยนต์ลอยเข้ามา แม้กระทั่งปิดกระจกรถสนิทแล้ว บางครั้งกลิ่นก็ยังเล็ดลอดเข้ามาภายในรถได้ หรือแม้แต่ในช่วงขับรถทางไกลออกต่างจังหวัด เข้าป่า ขึ้นดอย ในบางเวลาอยากที่จะเปิดกระจกรับลมธรรมชาติบ้าง แต่กลับได้กลิ่นควันจากการเผาป่า เผาไร่อ้อย ไร่นา ไร่สวนทางการเกษตร กลิ่นควันเหล่านี้ไม่เพียงแค่ส่งผลให้ความเพลิดเพลินใจในการเดินทางน้อยลงเท่านั้น ยังส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกายของเราโดยตรงอีกด้วย อย่างผู้เขียนเอง ทุกครั้งที่ได้กลิ่นเขม่าควันหรือกลิ่นน้ำมันรถยนต์ดีเซล จะรู้สึกวิงเวียนศีรษะจนบ่อยครั้งไม่สามารถขับรถต่อได้

ใครที่แพ้เขม่าควันมลพิษในเมือง แพ้ฝุ่นควันจากการเผา อยากเพิ่มสุนทรีภาพ ได้รับอากาศดี ๆ ตลอดช่วงเวลาเดินทาง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหยุดยาวปลายปีนี้หลายท่านอาจต้องเดินทางไกล เมื่อเดือนที่ผ่านมาบ้านไอเดียได้ไอเทมใหม่ไว้ติดรถยนต์ ทดลองใช้มาสักระยะแล้วได้ผลดีเกินคาด จึงนำมารีวิวให้ผู้อ่านนำไปพิจารณาตัดสินใจในการเลือกซื้อกันค่ะ

เนื้อหา | ภาพ : บ้านไอเดีย
สนับสนุนโดย : IQAir Thai

IQAIR Atem

เครื่องฟอกอากาศสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ได้นำมารีวิวนี้ มีชื่อว่า Atem Car เป็นเครื่องฟอกอากาศภายใต้แบรนด์ IQAir ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวกับเครื่องฟอกอากาศเกรดการแพทย์ตระกูล HealthPro ที่บ้านไอเดียได้รีวิวไปเมื่อครั้งก่อน คำว่า ” Atem (อาเทม) ” มาจากภาษาเยอรมัน มีความหมายว่า “ลมหายใจ” ด้วยความหมายดังกล่าวจึงเป็นที่มาของเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา ขนาดกะทัดรัด ที่มุ่งเน้นการกรองอากาศในระยะใกล้เสมือนเป็นลมหายใจทุกช่วงเวลา ทำการออกแบบที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์และผลิตในประเทศเยอรมนี ด้วยมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพสูง จึงได้รับเครื่องหมายรับรอง Swiss Made ช่วยการันตีเรื่องประสิทธิภาพได้อีกระดับหนึ่งเลยค่ะ

เครื่องฟอกอากาศในตระกูล Atem จะมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ Atem Desk เครื่องฟอกอากาศส่วนบุคคลแบบพกพา ใช้วางบนโต๊ะทำงาน โต๊ะข้างเตียง และ Atem Car เครื่องฟอกอากาศภายในรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องที่บ้านไอเดียจะทำการรีวิวให้ชมในบทความนี้ค่ะ

Atem Car เครื่องฟอกอากาศสำหรับรถยนต์ ออกแบบมาสำหรับการใช้ฟอกอากาศภายในรถยนต์ส่วนบุคคลโดยเฉพาะ เพื่อสร้างสภาวะอากาศที่มีคุณภาพตลอดการเดินทาง ดีไซน์ด้วยรูปทรงกลมโค้งมนและแบนสีดำ ทำให้ดูไม่โดดเด่นเกินไป สามารถติดตั้งร่วมกับรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ได้อย่างกลมกลืน น้ำหนักของเครื่องประมาณ 2 กิโลกรัม และสามารถเปิดฝาด้านหลังออกได้ จึงสามารถเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศได้ด้วยตัวเอง

ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ Atem Car

ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์การติดตั้งมาให้เรียบร้อย ทั้งสายรัดหัวเบาะรถยนต์, ที่ยึดเครื่องฟอกอากาศกับรถยนต์,ชุดอะแดปเตอร์แปลงไฟรถยนต์ 2.5 เมตร และคู่มือการใช้งาน สามารถติดตั้งได้ตามรูปภาพในคู่มือได้ไม่ยาก เริ่มจากการใส่สายรัดหัวเบาะเข้าไปในช่องที่ยึด และนำไปคล้องที่หัวเบาะรถยนต์

ยึดที่ยึดเครื่องฟอกอากาศหลังเบาะรถยนต์

จากนั้นนำเครื่องฟอกอากาศมาใส่เข้าไปในช่องตรงกลางของที่ยึด มีระบบล็อคไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะหลุดออกจากที่ยึด

และหากต้องการนำเครื่องฟอกอากาศออกจากที่ยึดเบาะรถยนต์ ให้ทำการกดปุ่มข้าง ๆ ตรงที่ยึด เครื่องฟอกอากาศก็จะหลุดออก

ต่อเครื่องฟอกอากาศเข้ากับระบบรถยนต์ด้วยการเสียบสายตรงที่ยึดและอีกด้านเสียบเข้ากับที่จุดบุหรี่ ซึ่งตรงหัวของอะแดปเตอร์จะมี Port USB สามารถเสียบชาร์จมือถือได้ แต่หากต้องการใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องต่อกับที่จุดบุหรี่โดยตรง จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์พ่วงมาใช้เพิ่มเติมค่ะ

เมื่อทำการเสียบสายเครื่องฟอกอากาศเข้ากับรถแล้ว ในครั้งแรกให้ทำการกดเปิดที่ตัวเครื่องพร้อมเลือกระดับของพัดลมไว้ก่อน จากนั้นครั้งต่อ ๆ ไป เมื่อเราสตาร์ทรถเครื่องฟอกอากาศจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ และเช่นเดียวกับเมื่อดับเครื่องยนต์เครื่องฟอกก็จะหยุดการทำงานตามไปด้วย

ทดสอบประสิทธิภาพแผ่นกรองอากาศ Hyper Heper Plus

แผ่นกรองอากาศภายใน Atem Car จะใช้แผ่นกรองอากาศ HyperHEPA Plus รูปตัว C ที่มีส่วนผสมถ่านคาร์บอนรวมอยู่ด้วย สามารถกรองอนุภาคในอากาศได้ถึง 0.003 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 800 เท่าและเล็กกว่าเชื้อไวรัส 10 เท่า จึงดักจับได้ทั้งฝุ่นขนาดเล็ก เขม่าควัน สารก่อภูมิแพ้ เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ รวมไปถึงโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ Covid-19 ได้ถึง 99% และด้วยส่วนผสมที่มีถ่านคาร์บอน จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถ สารฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซิน ดีเซล ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ สารเคลือบสีและสารก่อมะเร็งต่าง ๆ ได้อีกด้วย เป็นการช่วยขจัดมลพิษในอากาศขณะที่เรากำลังขับขี่รถยนต์ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ โดยอายุของแผ่นกรองอากาศจะใช้ได้ประมาณ 1 ปี (หากใช้ 3 ชม.ต่อวันในความแรงของพัดลมระดับ 3 ราคา 4,390 บาท)

ซึ่งจากการทดสอบตรวจวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ด้วย AirVisual Pro ก่อนเปิดเครื่องฟอกอากาศภายในรถ ค่า AQI อยู่ที่ 63 และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ประมาณ 18 (μg/m³) หลังจากเปิดเครื่องฟอกอากาศ Atem Car ไปได้ 10 นาที ดัชนีอากาศและค่าฝุ่น PM 2.5 เหลือเพียงแค่ 0 เท่านั้น ซึ่งนับเป็นค่าอากาศที่ดีมาก ๆ เหมาะกับการหายใจได้อย่างเต็มปอด

กรองอากาศภายใน 3 นาที กระจายลมทั่วห้องโดยสาร

หลักการทำงานของ Atem จะออกแบบให้พัดลมดูดอากาศแบบแรงเหวี่ยง Centrifugal Vacuum Fan Design โดยเครื่องจะทำการดูดอากาศที่อยู่รอบตัวเครื่อง 240 องศาเข้ามากรองภายในเครื่อง และใช้เทคโนโลยี Headspace ™ กระจายลมสะอาดไปทั่วทั้งห้องโดยสาร โดยใช้เวลาเพียง 3 นาทีหรือ 20 ครั้งต่อชั่วโมง ในการดึงอากาศเข้ามากรองและทำการปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกไป จึงทำให้ตลอดทั้งการเดินทางจะได้สูดอากาศดีอยู่เสมอ

เครื่องอยู่ใกล้ แต่เสียงเบา ไม่รบกวน

ระดับเสียงของ Atem Car ขณะเครื่องกำลังทำงาน เมื่อเปิดพัดลมระดับสูงสุดอยู่ที่ 55 เดซิเบล เนื่องด้วยได้ทำการออกแบบให้ทางเข้าของลมและทางออกของลมอยู่ห่างกันมากที่สุด อีกทั้งภายในยังมีการติดตั้งแผ่นกันเสียง (Silencer) เข้าไปด้วย ในรีวิวได้ทำการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ด้านหลังเบาะคนขับ แม้จะอยู่ในระยะใกล้ แต่เสียงของเครื่องฟอกก็ไม่ได้ส่งผลรบกวนแต่อย่างใด ยิ่งหากเปิดเพลงฟังไปด้วย ก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ ระดับการรบกวนทางเสียงของแต่ละคนอาจมีความแตกต่างกัน ใครที่ขับรถคนเดียวบ่อย ๆ แนะนำย้ายการติดตั้งไว้ฝั่งผู้โดยสาร ก็จะยิ่งลดการได้ยินยิ่งขึ้นค่ะ

Atem Car ใช้งานง่าย ควบคุมผ่านแอปฯ ได้

วิธีการใช้งานของ Atem ทำได้สองวิธีด้วยกัน วิธีแรกสั่งงานโดยการกดบนตัวเครื่อง โดยกดครั้งแรก เป็นการเปิดเครื่อง และกดครั้งที่ 2, 3 , 4 เป็นการปรับระดับพัดลม และกดครั้งที่ 5 เครื่องจะปิดการทำงาน ส่วนวิธีที่สอง คือการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน IQAir Atem ซึ่งรองรับทั้งระบบ iOS (คลิกดาวน์โหลด) และ Android (คลิกดาวน์โหลด) โดยใช้ระบบบลูทูธ ถึงแม้ไม่มีอินเตอร์เนตก็สามารถสั่งงานได้อย่างสะดวกสบาย

ขั้นตอนการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน IQAIR Atem

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน IQAIR Atem ลงบนสมาร์ทโฟน
เปิดเครื่องฟอกอากาศ Atem ที่ต้องการเชื่อมต่อ โดยการกดที่ตรงกลางตัวเครื่อง
ทำการเปิดบลูทูธบนสมาร์ทโฟน
ทำการเพิ่มเครื่องฟอกอากาศลงบนแอปพลิเคชัน ด้วยการกดปุ่ม + ตรงมุมล่างด้านซ้ายของหน้าจอ และกด Connect to Device
กรอกรหัส Pairing Code 6 หลัง (รหัสจะอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง)
จากนั้นเครื่องจะทำการเชื่อมต่อกับเครื่องฟอกอากาศ เมื่อหน้าจอแสดงคำว่า “Congratulations” แสดงว่าเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว กดปุ่ม Continue เพื่อเข้าสู่การใช้งานผ่านแอปพลิชันได้เลย

ฟีเจอร์ภายในแอปพลิเคชัน อาทิ

Fan Speed ปรับระดับแรงลมของพัดลมดูดอากาศ ระดับต่ำ ระดับกลางและระดับสูง
Light Setiing ปรับระดับแสงสว่างของหลอดไฟที่ตัวเครื่อง
Audio Feedback ปรับระดับความดังเมื่อเครื่องตอบสนอง
Filter Life บอกอายุการใช้งานของแผ่นกรองอากาศ
มีระบบ Touch Lock ป้องกันไม่ให้เด็กหรือผู้โดยสาร ทำการปรับเครื่องฟอกอากาศ Atem Car เอง

สรุปการใช้งาน IQAIR Atem Car

นอกจากการทดสอบวัดค่าดัชนีอากาศที่ได้เห็นภายในรีวิวชุดนี้แล้ว ระหว่างนั้นผู้เขียนได้นำรถไปเคลือบสี ขัดเบาะ ทำความสะอาดภายในและภายนอกใหม่ทั้งคัน เมื่อออกจากอู่รถจึงมีกลิ่นของสารเคมีตกค้างที่ใช้ในการทำความสะอาดติดมาด้วยค่อนข้างแรงมาก จึงเป็นโอกาสที่ดีในการทดสอบประสิทธิภาพการกรองกลิ่นของเครื่องฟอกอากาศ Atem Car โดยรวมแล้วสัมผัสได้เลยว่า เมื่อเปิดเครื่อง Atem Car ไปด้วย สามารถลดกลิ่นได้ดีในระดับหนึ่งเลยค่ะ เพราะหากไม่มีเครื่องฟอกอากาศกว่ากลิ่นสารเคมีจะหายคงใช้เวลากว่าสัปดาห์

ส่วนฟังก์ชันที่รู้สึกชื่นชอบเป็นพิเศษ คือ การที่เครื่องเปิดอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถ ทำให้ไม่ต้องไปยุ่งหรือเอื้อมมือไปกดปุ่มบนตัวเครื่องเลย เหมือนกับ Atem Car เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์ไปโดยปริยาย อีกทั้งการสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเตอร์เนต ทำให้สั่งงานได้แม้จะกำลังขับรถอยู่ในพื้นที่ไร้สัญญาณก็ตาม

จุดที่อาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้บางท่าน เนื่องด้วยโดยปกติ แจ็กจุดบุหรี่ในรถยนต์มีเพียง 1 จุดเท่านั้น ทำให้เมื่อใช้งาน Atem Car จะไม่สามารถใช้งานแจ็กจุดบุหรี่ได้เลย ซึ่งหากใครมีอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ เช่น ชุดเครื่องเสียงหรืออุปกรณ์ใด ๆ จำเป็นต้องหาชุดต่อพ่วงที่เป็นหัวแจ็กดังกล่าวเพิ่มเติม แต่หากเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เป็น USB ทาง IQAir ได้คิดเผื่อส่วนนี้ไว้ให้ โดยมีพอร์ต USB มาให้ด้วยค่ะ สามารถชาร์จแบตเตอรี่มือถือหรือต่อพ่วงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เป็น USB ได้ทันที

ผู้อ่านท่านใดที่สนใจเครื่องฟอกอากาศ Atem Car

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.iqualityair.com แฟนเพจ IQAir Thailand

หรือโทร 02-512 5888 เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่รวมถึงสอบถามราคาได้โดยตรงเลยค่ะ