
บ้านเก่า เล่าใหม่ เพื่อสองเรา
“บ้าน…ไม่ใช่จุดสุดท้ายของการมีชีวิตคู่ เเต่บ้าน…เป็นจุดเริ่มต้นของเราสองคน” คำพูดที่สื่อความหมายอย่างตรงไปตรงมาถึงบ้านหลังนี้ของคู่รัก คือ คุณแพรจากเพจ Peary is happy และคุณนนท์สถาปนิกจาก official space ที่เริ่มวางแผนชีวิตร่วมกัน หลังจากที่ได้คุยกันแล้วจึงตกลงใจเลือกรีโนเวททาวน์โฮมเก่า เพื่อทำเป็นพื้นที่แบ่งปันความสุขแทนการซื้อตึกใหม่ โดยงานนี้มีคุณนนท์เป็นผู้ควบคุมการออกแบบและก่อสร้างเองทั้งหมด และคุณแพรช่วยแชร์ไอเดียในการตกแต่ง ค่อย ๆ ก้าวทีละนิด ๆ ในแบบของทั้งคู่ ใช้เวลาในการปรับปรุง 8 เดือน กับงบประมาณไม่ถึง 2 ล้านบาท (ไม่รวมค่าออกเเบบและควบคุมงานก่อสร้างเพราะทำเอง) ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมออกมาแบ่งปันไอเดียสำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นสร้างครอบครัวด้วยการต่อยอดจากอาคารเก่าครับ
เจ้าของ : Peary is happy
ตกแต่ง : OFFICIAL SPACE Co., Ltd.
เนื้อหา: บ้านไอเดีย
Before: ภายนอกเป็นอาคารทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 35 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร ผนังถูกขนาบ 2 ด้าน ซึ่งเดิมด้านหน้ามีการจัดสรรพื้นที่ค่อนข้างดีอยู่เเล้ว มีที่ว่าง มีระเบียงที่ชั้นบน เเต่ด้วยอายุทำให้ดูทรุดโทรม และมีเส้นโค้งประกอบกับตกแต่งบัวประดับค่อนข้างเยอะ บ้านจึงดูไม่ค่อยทันสมัย
After : โปรเจ็ค 1889 HAUS เริ่มต้นการปรับปรุงที่รูปลักษณ์ภายนอกกันก่อน ด้วยทิศหน้าบ้านหันทิศตะวันตกซึ่งเป็นทิศรับแสงแดดเต็มๆ ทั้งวัน คุณนนท์จึงออกเเบบ facade ใหม่เป็นโครงเหล็กแปะทับด้วยไม้เทียมทาสีน้ำตาล ทำหน้าที่ป้องกันภายในจากเเสงแดดและสร้างความเป็นส่วนตัว แต่ยังมีช่องว่างและช่องแสงให้มองเห็นภายนอกได้เช่นกัน ส่วนของประตูบ้านเปลี่ยนจากบานเลื่อนกระจกใสมาเป็นประตูไม้ด้านหนึ่ง และเป็นผนังกระจกกรอบสีดำเป็นช่อง ๆ อีกด้าน เน้นใช้สีดำและน้ำตาลเป็นหลักให้ความโมเดิร์นแต่ยังอบอุ่น พื้นโรงรถเปลี่ยนจากคอนกรีตเป็นคอนกรีตพิมพ์ลายที่ดูแลง่าย แข็งแรง และไม่ลื่น
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
เมื่อเข้ามาในบ้านจะพบการทักทายอย่างอบอุ่นจาก Foyer เล็กๆ บิลท์อินตู้เก็บรองเท้าและที่นั่งใส่รองเท้า บานทำจากวัสดุลายไม้สีอ่อนละมุนตาใส่ลูกเล่นให้น่าสงใจด้วย lighting
Before: มุมมองประตูหน้าบ้านเดิม จากด้านนอกมองออกไป
จาก Foyer เข้ามาจะเป็นฉากระแนงไม้บังพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวด้านหลังเเละใช้ประโยชน์จากแผงนี้ในการติดตั้งเเอร์ ซึ่งนักออกแบบเผื่อพื้นที่สำหรับการ service เอาไว้เเล้วไม่ต้องกังวลปัญหาเมื่อต้องการล้างแอร์ ส่วนผนังด้านข้างเดิมที่ทำบังเสามีความลึกไม่เท่ากันนั้นถูกปรับใหม่ โดยใช้ผนังเบาซ่อนเสาให้เรียบเท่ากันยาวลึกเข้าไป พื้นห้องรื้อกระเบื้องเก่าปูใหม่ด้วยกระเบื้องยางลายไม้ดูอบอุ่นเข้ากันได้ดีกับ ตู้ โต๊ะ โซฟา สไตล์โมเดิร์นมินิมอล ผนังทาสีควันบุหรี่ เพดานติดไฟสี warm white ยิ่งทำให้บรรยากาศชวนผ่อนคลาย
Before: ภายในบ้านเดิมจากโถงหน้าบ้านเข้ามาจะมีการก่อผนังกั้นแบ่งห้องเล็ก ๆ เยอะ ทำให้ดูอึดอัดและขาดพื้นที่รับแสงจากด้านหลัง ความสูงฝ้าที่ค่อนข้างเตี้ยยิ่งทำให้รู้สึกว่าบ้านถูกบีบอัดทุกด้าน โซนด้านหลังจะมีพื้นที่ต่างระดับด้วย ซึ่งนักออกแบบยังคงพื้นต่างระดับไว้เพราะสามารถใช้ประโชยน์ในการแบ่งขอบเขตการใช้งานได้ ส่วนหลังบ้านต่อเติมหลังคาออกมาเป็นพื้นที่โล่ง ๆ
เจ้าของบ้านทั้งสองคนชอบความรู้สึกโล่ง โปร่งสบาย เเต่อบอุ่น จึงรื้อผนังเดิมข้างหลังออกทั้งหมดแล้วดันฝ้าให้สูงขึ้น เพื่อเชื่อมพื้นที่ทุกส่วนให้ต่อเนื่องกันตั้งแต่ด้านหน้าทะลุออกไปถึงด้านหลัง ห้องประตูกระจกเล็ก ๆ ก็ถูกรื้อออก ทำเป็น pantry มี island ตัวใหญ่ ในใจกลางของบ้าน ออกเเบบให้พื้นต่างระดับเป็นเหมือนการเเยกส่วนระหว่างพื้นที่นั่งเล่น เเละ pantry เเต่ยังสามารถมองเห็นกันได้
การตกแต่งมุมนี้เน้นสีขาวและงานไม้สีอ่อน ๆ ให้ฟีลลิงแบบร้านกาแฟ Home cafe และเป็น multi-purpose area ที่สามารถนั่งทานข้าว จิบกาเเฟ ทำอาหารเบาๆ เเละนั่งทำงานได้พร้อมๆ กัน ส่วนประตูหลังบ้านเป็นบานเฟี้ยมเก็บเข้าด้านข้างได้หมด จึงรับแสงสว่างและระบายอากาศได้เต็มที่แบบไม่มีอุสรรค ฝั่งตรงข้าม Pantry เปลี่ยนช่องหน้าต่างให้สูงถึงพื้น เพื่อรับเเสงเข้ามากขึ้น ทำเป็นพื้นที่ซักผ้าติดตั้งเครื่องซักผ้าและบิลท์ตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ
หลังบ้านหลังปรับปรุงปูพื้นไม้เทียมและกั้นผนังเบา เพื่อความเป็นส่วนตัวกับข้างบ้าน จัดทำเป็น Co-activities space ให้สามารถทำกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบได้หลากหลาย เช่น นั่งเล่น ทำสวน จัดดอกไม้ ออกกำลังกาย วันว่าง ๆ ก็ชวนครอบครัวและเพื่อน ๆ มาสังสรรค์ปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ สบายๆ หรือทำอาหารหนักๆ ก็ได้
Before : บนชั้นสองเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ปูไม้ปาร์เก้ดูเก่า ๆ มีช่องแสงเล็ก ๆ ด้านหน้าและด้านหลัง
After : สเปซโล่ง ๆ ถูกเนรมิตให้กลายเป็นห้องนอนใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใน walk-in เอาไว้ โดยนักออกแบบเลือกสีวัสดุลายไม้ธรรมชาติให้ใกล้เคียงกันทั้งหมด เพื่อให้ห้องบรรยากาศ Cozy มีความเป็นญี่ปุ่นเล็กๆ ดูอบอุ่น เรียบง่าย ทำผนังกั้นระหว่างห้องนอน (ส่วนหน้าบ้าน) กับ walk-in closet (ส่วนด้านหลังบ้าน) ให้เป็นสัดส่วน มีประตูบานเลื่อนไม้เปิดเชื่อมต่อกันได้ สำหรับพื้นห้องเลือกวัสดปูแบบ click-lock เพราะไม่ต้องการเพิ่มน้ำหนักของอาคารเดิมและง่ายต่อการติดตั้ง
Before : ความแปลกของบ้านนี้คือ บนชั้น 3 มีระเบียง แต่กลับทำผนังทึบติดหน้าต่างกลางผนัง ทำให้ไม่สามารถออกไปใช้พื้นที่ระเบียงได้
After : รื้อหน้าต่างและผนังเก่าออก เปลี่ยนเป็นประตูบานเลื่อน และจัดโซนนี้ให้ป็นห้องทำงานที่สามารถออกไปพักสายตาตรงระเบียงหลังบ้านได้
ห้องน้ำบนชั้น 1 และ 2 ใช้โทนสีดำเป็นหลัก แต่บนชั้น 3 เปลี่ยนบรรยากาศมาเลือกใช้กระเบื้องสีขาวทั้งพื้นและผนัง บนผนังติดกระจกขอบไม้บานใหญ่ เพื่อให้ห้องน้ำดู สะอาด สว่าง และครีเอท เหมือน feel คาเฟ่อีกเช่นเคย ทำให้รู้สึกสุนทรีทุกครั้งที่ได้เข้าใช้งาน แต่เจ้าของบ้านแอบกระซิบนิดหนึ่งว่า พื้นสีขาวค่อนข้างดูแลรักษายากนิดหนึ่ง หากเท้าเปื้อนจะเป็นรอยเห็นได้ชัดต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ
หลังจาก 8 เดือนผ่านไป “บ้าน” ที่เป็นพื้นที่บันทึกเรื่องราวใหม่ ๆ ของทั้งคู่ก็ได้เริ่มขึ้น ซึ่งคุณแพรได้สรุปข้อคิดส่งท้ายในการรีโนเวทบ้านด้วยคำพูดของเนลสัน แมนเดลา ว่า “?? ?????? ????? ?????????? ????? ??’? ????” แปลง่าย ๆ ว่ามันอาจจะดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้ จนกว่าจะเห็นผลสำเร็จ นั่นเป็นเพราะระหว่างทำบ้านทั้งคู่เจออุปสรรคต่างๆ มากมาย และไม่ง่ายเลยที่จะแก้แต่ละปัญหา จนดูเหมือนว่าสิ่งที่คิดจะทำดูเป็นไปไม่ได้ เเต่ในที่สุดทั้งคู่ก็ลงมือทำจนผ่านไปได้อย่างสวยงาม หวังว่าเรื่องราวของบ้านนี้จะเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะสร้างบ้านในฝันทุกคนนะครับ