
รีโนเวทบ้านใหม่ ลุคเรียบ เฉียบ คม สไตล์ Minimal
บ้านชั้นเดียวหลังนี้อยู่ในเมืองเบียนโฮ ประเทศเวียดนาม พื้นที่ใช้สอย 180 ตารางเมตร แต่เดิมภาพรวมของบ้านดูคับแคบ อับทึบ แทบไม่มีทางสัญจร และไม่มีสวน ทำให้เจ้าของบ้านต้องการปรับปรุงโฉมหน้าของบ้านใหม่หมด เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้น สถาปนิกจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลงทั้งรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นของบ้านใหม่ตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้านในสไตล์โมเดิร์น Minimal มีสวนหน้าบ้าน ภายนอกดูเรียบเฉียบด้วยโทนสีทูโทนขาว-ดำ ภายในเต็มไปด้วยความโปร่งสว่าง การตกแต่งแม้จะใช้ของแต่งเพียงไม่กี่ชิ้น แต่เน้นความเป็นเอกลักษณ์และดีไซน์ที่สะดุดตา เป็นบ้านที่เปลี่ยนไปจนเหมือนกลายเป็นบูติคโฮมเล็ก ๆ ที่ชวนให้เพลิดเพลินใจในทุกมุม
ภาพโดย : NGOISAO
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านเก่าก่อนปรับปรุง เป็นบ้านชั้นเดียวตกแต่งเรียบง่ายในแบบที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศเวียดนาม
บ้านหลังปรับปรุงแล้ว ลุคสดใสสไตล์โมเดิร์นมินิมอลโทนสีขาวดำ เหมือนใส่เสื้อใหม่ให้บ้านที่เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าโครงของบ้านเดิม
ปรับปรุงบ้านเก่า รักษาโครงสร้างเดิม ให้มากที่สุด
สถาปนิก Pham Minh Nhat ซึ่งเป็นหลักในทีมงานปรับปรุงใช้เวลาโฟกัสกับงานชิ้นนี้มาก เพื่อออกแบบผลงานที่น่าประทับใจ โดยใช้เวลาตั้งแต่วางแนวคิดการออกแบบไปจนถึงการตกแต่งบ้านรวมแล้วประมาณ 3 เดือน ปัญหาใหญ่ที่สุดที่พบเมื่อเริ่มทำการซ่อมแซมบ้านคือ โครงสร้างที่ทรุดโทรมค่อนข้างรุนแรง ทำให้ต้องระมัดระวังทุกขั้นตอนในการทุบรื้อ จึงต้องทำไปแก้ปัญหาไปในแต่ละวัน แต่ทีมงานก็เผชิญความท้าทายด้วยการพยายามคิดออกนอกกรอบ เพื่อให้ได้คำตอบที่ดีที่สุด ยังดีที่บ้านเดิมข้อดีอยู่คือ แผนผังภายในบ้านเดิมเป็นสี่เหลี่ยมแบ่งซอยออกเป็นช่อง ๆ สถาปนิกจึงยังรักษาโครงสร้างไว้บางส่วน ผนังบางส่วนทุบรื้อออกทำทางเดิน และเปลี่ยนใช้ผนังกระจกเพื่อทำให้บ้านดูโปร่งดึงแสงสว่างเข้าตัวบ้านได้มากขึ้น ซึ่งตรงกับความต้องการที่เจ้าของบ้านอยากได้
บ้านสไตล์โมเดิร์นมินิมอล โทนสีขาวดำสร้างความขัดแย้งที่คมชัด
สถาปนิกต้องการให้บ้านใหม่ออกมาในรูปแบบที่ทันสมัยผสมผสานพื้นที่สีเขียวในทุกจุด เพื่อสร้างบรรยากาศที่สดชื่น หน้าบ้านจึงเปลี่ยนจากที่จอดรถเป็นสนามหญ้าเชื่อมต่อมาถึงหน้าบ้าน ภายในก็วางกระถางต้นไม้ตามพื้นที่วางจุดเล็กจุดน้อยทั่วบ้าน สำหรับธีมสีหลักที่ใช้คือสีขาวและสีดำ โดยเลือกทาส่วนใหญ่ของผนังเป็นสีขาวเพื่อสร้างความรู้สึกใหม่ ๆ ให้กับพื้นที่ ตัดด้วยสีดำเพื่อทำให้เกิดความรู้สึกขัดแย้ง (contrast) ทางสายตาที่คมชัด และการแบ่งพื้นที่ออกจากกันโดยใช้สีเป็นตัวกลาง
เมื่อเปิดประตูทางเข้ามาสู่ตัวบ้าน จะพบกับมุมนั่งเล่นต้อนรับด้วยสไตล์ Minimalist เน้นความเรียบง่าย เบาสบาย ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม่เยอะมาก มีเพียงชุดโซฟาตัวยาว เพื่อให้บรรยากาศห้องปลอดโปร่งโล่งตา สีที่ใช้ยังคงโทนขาว เทา ดำเป็นหลักไม่ใช้สีสันฉูดฉาด ไม่ตกแต่งอะไรให้ซับซ้อนรู้สึก ได้ถึงความโปร่งสว่างจากหน้าต่างขนาดใหญ่ และความตรงไปตรงมาของเส้นสายกรอบประตูหน้าต่างสีดำ และโต๊ะกลางขาเหล็กแบบโมเดิร์น
ใส่ช่องว่างเติมพื้นที่สีเขียว ดึงแสงธรรมชาติและลมเข้าสู่ภายใน
สถาปนิกต้องการใช้ประโยชน์จากช่องว่างในการออกแบบ เพื่อดึงพื้นที่สีเขียวเข้ามาในบ้าน และนำวิวทิวทัศน์ แสงธรรมชาติจากภายนอกเข้าสู่ภายใน จึงเจาะผนังให้เป็นช่องแสงขนาดใหญ่หลาย ๆ จุด ตัวอย่างเช่น สร้างหน้าต่างขนาดใหญ่ในห้องนั่งเล่น เป็นเบย์วินโดว์ที่เมื่อนั่งอยู่ในบ้านจะสามารถมองตรงออกไปที่สวน หรือประตูทางเข้าบ้านที่เป็นกระจกตรงกับบริเวณห้องนั่งเล่นดูทีวี ซึ่งนอกจากจะได้ประโยชน์เรื่องแสงแล้ว ยังเป็นช่องทางรับอากาศภายนอกเข้ามาหมุนเวียนภายใน ไม่อับลมและแสงเหมือนก่อน
เบย์วินโดว์ที่บิวท์อินเหมือนเป็นกรอบรูป เพิ่มพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
มุมดูทีวีตรงข้ามกับโซฟาเรียบง่ายแต่มีมิติทางสายตาด้วยการใส่ของตกแต่งลวดลายกราฟฟิกสามเหลี่ยม ลายตาราง ตกแต่งด้วยงานสาน ดอกไม้ ใบไม้ เพื่อลดความราบเรียบของชุดสี เติมช่องแสงช่องลมแนวตั้งเล็ก ๆ ข้างทีวี ไม่ว่าจะจุดไหนก็มีจังหวะของแสงและลม
รื้อผนังเดิม เปิดช่องทางเดิน ใส่กระจกเพิ่มความโปร่งสว่าง
ถัดจากห้องนั่งเล่นหน้าบ้านทุบผนังที่ปิดกั้นแบ่งห้องออก เพื่อทำเป็นช่องประตูทางเดินเชื่อมจากหน้าบ้านเข้ามาสู่ห้องนอน ซึ่งเลือกใช้วัสดุกระจกมาเป็นผนังแทนการก่ออิฐฉาบ เพราะต้องการให้เกิดความรู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัดและยังสามารถเชื่อมต่อพื้นที่กับส่วนอื่น ๆ ได้
ห้องนอนหลักโทนสีขาวดำเรียบหรู เต็มไปด้วยแสงสว่างจากช่องแสงแนวนอนด้านข้าง และแสงไฟสวย ๆ บริเวณฝ้าเหนือหัวเตียง ห้องนี้พิเศษที่นอกจากจะเป็นผนังกระจกด้านที่ติดกับทางเดินแล้ว ประตูอีกด้านยังสามารถเปิดเชื่อมต่อกับ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกันได้ เป็นหารขยายพื้นที่ห้องนอนให้ดูกว้างขึ้นไปอีก
ถัดมาจะเป็นห้องนอนอีก 1 ห้อง ซึ่งเป็นผนังกระจกใสเช่นเดียวกัน สถาปนิกขยับพื้นที่ผนังให้อยู่ลึกเข้าไปอีกนิดเพื่อให้ความเป็นส่วนตัว และเพิ่มพื้นที่สำหรับวางกระถางต้นไม้หน้าห้อง ใส่พื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้านให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติโดยไม่ต้องรบกวนทางเดินภายใน
ครัวและห้องทานข้าว ให้อาหารเชื่อมสัมพันธ์ครอบครัว
ลึกเข้ามาด้านในสุดทางเดิน เป็นห้องทานอาหารและครัว ที่ยังคงคุมธีมสีและสไตล์มินิมอลเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น ด้วยเฟอร์นิเจอร์รูปลักษณ์ทันสมัยผสมกับกลิ่นอายของแฟชั่นนิสต้าได้อย่างลงตัว ผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องสีขาวตัดด้วยสีเขียวตุ่น ๆ ของใบไม้ปลอมที่แขวนอยู่ ให้บรรยากาศการทานอาหารที่สดชื่นปนอบอุ่น
เคาน์เตอร์ปรุงอาหารหันหน้าออกไปด้านนอก ในขณะที่ปรุงอาหารพ่อครัวแม่ครัวก็ยังสามารถสนทนากับสมาชิกในครอบครัวที่นั่งอยู่ตรงมุมทานข้าว และเป็นวิธีที่จะปิดบังส่วนเตรียมอาหารไม่ได้ดูรกเลอะเทอะ นอกจากนี้ยังใช้ส่วนนี้เป็นบาร์สำหรับนั่งดื่มเครื่องดื่มหรือทานอาหารว่างในวันที่มีปาร์ตี้ได้ด้วย
มุมมองหน้าบ้านในยามค่ำ จะเห็นภาพกำแพงหน้าบ้านที่ทำจากอิฐช่องลม ทางเดินจากหน้าบ้านผ่านสวนเข้าสู่ตัวบ้าน และทางเดินเล็ก ๆ ข้างบ้าน มองดูกี่ครั้งก็รู้สึกได้ถึงความโดดเด่นที่แสดงออกมาท่ามกลางความเรียบ เฉียบคม
สถาปนิก Minh Nhat กล่าวทิ้งท้ายถึงผลงานว่า “ช่วงเวลาตั้งแต่การออกแบบ ปรับปรุง และตกแต่งภายใน เป็นเวลาประมาณ 3 เดือน เรามีอิสระในการออกแบบตามใจชอบ ดังนั้นเราจึงต้องปฏิบัติตามขั้นตอนตามลำดับขั้นไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่การเลือกอิฐ มองหาของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ทีละชิ้น ๆ ลงมือทาสี เพื่อทำให้ทุกอย่างที่อยู่บนกระดาษเป็นจริงขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อผลงานเสร็จสิ้นและได้รับการตอนรับเชิงบวก ทำให้เรามีกำลังใจที่จะสร้างสรรค์งานชิ้นใหม่ที่ดียิ่งขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ ” http://www.tb-credit.ru/zaem.html