
บ้านชั้นครึ่งผนังอิฐช่องลมเพิ่มความส่วนตัว
บ้านหลังนี้ชื่อโครงการ Paati veedu ในภาษาทมิฬแปลว่า “บ้านของยาย” ที่ฟังดูอบอุ่น เจ้าของเคยอาศัยอยู่ในบ้านหลายชั้นที่มีแสงสว่างและการระบายอากาศจำกัด และพื้นที่ที่ไม่ต่อเนื่องกัน เมื่อจะสร้างบ้านจึงต้องการบ้านที่เรียบง่ายและปลอดภัย มีแสงธรรมชาติและการระบายอากาศที่ดี รวมถึงการเชื่อมโยงทางสายตาและทางกายภาพระหว่างพื้นที่ของครอบครัว บนพื้นที่ 12×18 เมตร โดยให้ด้านเหนือหันไปทางถนน
ออกแบบ : art and architecture
ภาพถ่าย : Kaptured Studios
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
ตามความต้องการเปิดโล่ง ปลอดภัย และให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ฟังดูเหมือนขัดแย้งกัน แต่สถาปนิกสามารถทำออกมาได้ง่ายดาย โดยออกแบบเป็นทรงกล่องง่ายๆ มีเส้นสายแนวนอนของตะแกรงเหล็กเพิ่มความปลอดภัย หน้าอาคารที่อยู่ติดกับพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กทำให้บ้านดูลอยตัวและโปร่งสบาย ทีมงานได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านที่มีลานบ้านแบบดั้งเดิมในภูมิภาคนี้ จึงทำลานบ้านเอาไว้ภายใน แต่จะมองไม่เห็นจากภายนอก เพราะมีผนังช่องลมพรางตาอยู่ วิธีนี้ยังเป็นการผสานความคิดถึงอดีดเข้ากับความทันสมัยอย่างลงตัว
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
ส่วนของบ้านที่เป็นองค์ประกอบสำคัญเรียกว่า Thinnai (ในภาษาทมิฬ คือ ระเบียงที่หันไปทางถนน) ออกแบบโดยตั้งใจให้มองเห็นจากด้านใน เพื่อความเป็นส่วนตัวและทำหน้าที่เป็นพื้นที่สังสรรค์สำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ ตกแต่งอิฐจากในท้องถิ่นเป็นผนังกั้นที่คั่นระหว่างลานจอดรถและลานบ้าน ในรูปแบบการเรียงแพทเทิร์นสลับทึบและโปร่ง เพื่อให้แสงแดดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือส่องเข้ามาได้ ในขณะที่ได้รับการบดบังและปลอดภัยจากถนน
พื้นที่นี้ออกแบบมาให้เป็นเหมือนงานศิลปะชิ้นใหญ่ นำเอาองค์ประกอบของธรรมชาติเข้ามาใช้ทั้งทางกายภาพและนามธรรม เช่น การเรียงอิฐด้านตะวันออกแสดงถึงไฟ บันไดที่ทำด้วยออกไซด์สีน้ำเงินแสดงถึงน้ำ การใช้สีแดงแทนดิน และพื้นที่ภายนอกและภายในที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกันด้วยสายตาแทนอากาศ จุดนี้มีเสาหลัก 4 ต้นที่บูรณะจากบันไดอาคารสมัยอาณานิคมเชื่อมต่อกันจนดูเหมือนเสาคู่ ตั้งบนหินก้อนเล็ก ๆ ที่พบขณะขุดค้น
เข้ามาภายในบ้าน จะเพดานห้องนั่งเล่นเปิดโล่ง โดยมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนสูงจากผนังด้านเหนือและตะวันออก โดยมีผนังทึบด้านใต้และตะวันตกช่วยบังแสงแดดในช่วงบ่าย ด้วยเพดานที่มีระดับต่างกันทำให้แยกพื้นที่ออกจากกัน ส่วนหนึ่งของหลังคาที่เชื่อมต่อเป็นโถงสูงขึ้นไป ติดตั้งสกายไลท์โปร่งแสงให้บ้านสว่างในบริเวณที่ต้องการอย่างสมดุล ในห้องนั่งเล่นนอกจากจะมีชุดโซฟาแล้ว ยังมีชิงช้าที่ทำไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่ให้นั่งเล่นนอนเล่นสบายๆ
จากภายในอาคาร สามารถมองเห็นลานบ้านได้อย่างชัดเจนผ่านหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอลูมิเนียมในห้องครัว ห้องทานอาหาร และบริเวณทางเดิน แสงและเงาธรรมชาติที่ตัดกันไม่เพียงช่วยให้ลานบ้านถ่ายเทอากาศได้ดีและมองเห็นทัศนียภาพได้ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังสร้างความเชื่อมโยงทางสายตาระหว่างพื้นที่ต่างๆ อีกด้วย
เพดานคอนกรีตดูแปลกตาด้วยชุดกลมสีส้มอมแดง ซึ่งตกแต่งโดยใช้กระถางดินเผาธรรมดาๆ นี่เอง ทั้งในทางเดินและช่องบันได ช่วยเปลี่ยนความจำเจของพื้นที่เรียบๆ ให้ดูมีรายละเอียด และทำให้เพดานที่เตี้ยเย็นลง การออกแบบมีจุดมุ่งหมายเพื่อผสมผสานองค์ประกอบจากธรรมชาติเข้ากับแนวคิดที่ใช้งานได้จริงและประหยัด ซึ่งสะท้อนถึงพื้นที่ที่เรียกว่าบ้านของยายได้อย่างลงตัว
แปลนบ้าน