อาคารแนวคิดยั่งยืนมี Roof Garden
ช่วงนี้เวียดนามมีความตื่นตัวในเรื่องสถาปัตยกรรมสีเขียวมากขึ้น เพราะเข้าใจดีว่าประเทศกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ เช่น การสูญเสียพื้นที่สีเขียว อุณหภูมิอากาศที่สูงขึ้น มลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในปัจจุบัน แต่ยังส่งผลกระทบที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นในอนาคตอีกด้วย อาคารในเมืองใหญ่และเขตเมืองจึงออกแบบให้มีความเป็นมิตร สอดคล้องกับบริบททางภูมิอากาศ และเติมธรรมชาติในตัวอาคารมากขึ้นโดยเฉพาะบนหลังคา และนี่จะกลายสัญลักษณ์ใหม่แทนที่พื้นที่สีเขียวแบบเดิมที่เริ่มหายไปทีละน้อย
ออกแบบ : Pham Huu Son Architects
ภาพถ่าย : Hiroyuki Oki
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
โครงการออกแบบออฟฟิศใน Cam Lam-Khanh Hoa ตั้งอยู่ในเวียดนามตอนกลาง เป็นหนึ่งในงานสถาปัตยกรรมที่เพิ่งสร้างเสร็จสด ๆ ร้อนๆ ในปีนี้ (2024) มองจากภาพถ่าย Bird’s eye view จะเห็นความแตกต่างอย่างโดดเด่นด้วยการจัดสวนบนหลังคา (Green Roof) หัวใจสำคัญของออกแบบสำนักงาน คือ ความยั่งยืนที่เกิดจากการบูรณาการธรรมชาติเข้ากับทุกแง่มุมของสถาปัตยกรรม ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการแสงธรรมชาติ การจัดระบบน้ำหมุนเวียน การเลือกวัสดุ และแผงโซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานสะอาดใช้เอง
อาคารนี้มีลักษณะลึกยาวเหมือนอาคารส่วนใหญ่ในเมืองทั่วไป จึงถูกวางแผนออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ พื้นที่ทำงานและ Model House ที่มาพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีห้องนอน ห้องครัว พื้นที่รับประทานอาหาร ไปจนถึงห้องน้ำ สำหรับโครงสร้างหลักของอาคารจะใช้วัสดุอิฐแบบไม่เผา หลังคามีลักษณะเป็นเหมือนคานขนาดใหญ่เป็นแท่งเว้นระยะห่างยาวไปจนสุด เมื่อปลูกต้นไม้ด้านบนจะเหมือนมีแปลงปลูกต้นไม้เรียงเป็นแถว และผนังที่เป็นกระจกรอบด้าน เว้นทางเดินข้างๆ ออฟฟิศเป็นทางโรยกรวดคั่นด้วยแผ่นคอนกรีต รายล้อมด้วยต้นไม้เขียวๆ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่กลางสวน
ผนังกระจกมีข้อดีที่ทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้าช่วงกลางวัน ช่วยเบลอขอบเขตระหว่างภายนอกและภายใน ให้มองเห็นภูมิทัศน์รอบด้านอย่างชัดเจน แต่ขณะเดียวกัน ความใสก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับอาคารในเขตร้อน เพราะกระจกจะยอมให้แสงผ่านได้ดี และแน่นอนว่าจะตามมาด้วยความร้อนเมื่อใช้ชีวิตอยู่ข้างใน ซึ่งสถาปนิกก็ทราบดี จึงเป็นที่มาของการเลือกใช้กระจกที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนแสง ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่เปิดได้กว้างระบายอากาศ พร้อมทั้งใช้ต้นไม้เป็นปราการช่วยกรองแสงทั้งบนหลังคาและรอบๆ อาคาร นอกจากไม่ร้อนแล้วยังช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องปรับอากาศแม้ในวันที่อากาศร้อนด้วย
ส่วนหน้าของอาคารจะเป็นพื้นที่ออฟฟิศและโซนต้อนรับแขก มีบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย ช่วยสร้างบรรยากาศให้กับพื้นที่ทำงานที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและมีประสิทธิภาพสำหรับพนักงาน แสงสว่างตอนกลางวันได้รับออกแบบให้เหมาะสมผ่านช่องว่างระหว่างแถวบนหลังคา ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้แสงสว่างจากไฟฟ้าในเวลากลางวัน แผงโซลาร์เซลล์ได้รับการติดตั้งเหนือพื้นที่ Model House ที่อยู่ในโซนด้านหลังให้พลังงานสะอาดสำหรับทั้งสำนักงาน และผสมผสานเข้ากับภูมิทัศน์ที่ยั่งยืนและประหยัดพลังงาน
ระหว่างออฟฟิศที่อยู่ด้าหนน้ากับโซนหลังที่เป็นบ้านตัวอย่าง จะถูกคั่นด้วยคอร์ทยาร์ดที่มีต้นมะม่วงขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ต้นมะม่วงนี้อยู่มาก่อนสร้างอาคารและทีมงานได้เก็บเอาไว้แทนที่จะตัดทิ้งเป็นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเคารพ คอร์ทยาร์ดนี้ทำหน้าที่หลายๆ อย่าง ทั้งเป็นจุดแบ่งขอบเขตและเชื่อมต่อการใช้งานของสองโซนหลัก เป็นพื้นที่รับแสง รับลม เพิ่มธรรมชาติเป็นมุมพักผ่อนสบายๆ ให้กับบ้าน จุดเด่นที่สุดอีกจุดของบริเวณนี้อยู่ที่ต้นลีกวนยู ที่ปลูกไว้บนหลังคาเหมือนเป็นม่านธรรมชาติห้อยย้อยลงมาช่วยพรางแสงแดดได้เป็นอย่างดี
ในห้องน้ำก็ตกแต่งด้วยองค์ประกอบของธรรมชาติ พื้นโซนแห้งปูวัสดุลายไม้ ส่วนเปียกปูด้วยกรวดและจัดสวนเล็ก ๆ ให้ความรู้สึกราวกับได้อยู่กลางธรรมชาติ
นอกจากนี้ ในโครงการ Office for Trees ยังมีอ่างเก็บน้ำใต้ดินความจุถึง 30 ลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้กักเก็บน้ำฝนจากหลังคาในช่วงวันฝนตก ซึ่งจุดกักเก็บน้ำฝนจะเชื่อมต่อกับบ่อปลาบริเวณลานหน้าบ้าน เพื่อกรองของเสียจากปลาและจุลินทรีย์ รวมกับระบบปั๊มชลประทานอัตโนมัติเพื่อจ่ายน้ำเข้าถังบนหลังคารดน้ำทั่วทั้งสวนโดยรอบโครงการ ทำให้เกิดวงจรแห่งการฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เป็นความมุ่งมั่นต่อการสร้างพื้นที่สีเขียว ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการออกแบบพื้นที่ทำงานแห่งอนาคตได้อย่างน่าชื่นชม
แปลนอาคาร
