
บ้านปิดภายนอกเปิดภายใน
สถาปัตยกรรมหรือบ้านนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุก่อสร้างที่ไม่มีชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ ที่จะส่งผลต่อบรรยากาศรอบตัวและอารมณ์ของผู้คนอยู่อาศัยภายในอีกด้วย สิ่งเหล่านี้สามารถนำเสนอผ่านวัสดุก่อสร้างที่เรียบง่ายหรือหรูหรา ผ่านแสงธรรมชาติหรือไฟประดิษฐ์ ต้นไม้หรือก้อนกรวดที่ผสมผสานกันอยู่ในทุกองค์ประกอบ สำหรับบ้านหลังนี้เกิดขึ้นจากเจ้าของที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบายห่างไกลจากเสียงรบกวน ที่ซึ่งกิจกรรมของพวกเขากลายเป็นส่วนตัวและอิสระ โดยไม่ลืมนำความเป็นธรรมชาติมาสู่ทุกเส้นสายและวัสดุ
ออกแบบ : AD9 Architects
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
Nuc Vien House เป็นชื่อโครงการบ้านพักขนาดพื้นที่เพียง 200 ตารางเมตร หรือ 50 ตารางวา เจ้าของเป็นคู่รักหนุ่มสาวยุคใหม่ที่ต้องการบ้านที่แยกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและเป็นอิสระสำหรับช่วงเวลาส่วนตัว โครงการจึงเริ่มต้นด้วยองค์ประกอบที่ตัดกัน คือ ภาพภายนอกที่ดูปิดทึบสายตาของบุคคลภายนอก และพื้นที่หลักภายในที่เต็มไปด้วยสเปซที่ว่าง
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
จากภายนอกจะเห็นตัวบ้านใช้คอนกรีตดิบๆ โชว์ให้เห็นเส้นกริดไลน์และรูน็อต โดยไม่ฉาบทับทั้งผืนอาคาร แทรกด้วยหลังคากันสาดเล็กๆ โครงไม้ปูกระเบื้อง และรั้วไม้ด้านหน้าที่ช่วยลดทอนความรู้สึกดิบกระด้างของคอนกรีต ระบบหลังคาไม้นี้แม้ใช้พื้นที่ไม่มาก แต่กลับมีบทบาทในการป้องกันแดดฝน ช่วยให้บ้านมีลุคอบอุ่นอยู่ใต้หลังคา และยังเป็นจุดเด่นด้านสุนทรียศาสตร์ ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมโยงที่ละเอียดอ่อนระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กับแบบดั้งเดิม ที่ทีมงานนำความแตกต่างระหว่างองค์ประกอบเหล่านี้มาสร้างสมดุลสู่พื้นที่อยู่อาศัย
ด้วยขนาดพื้นที่ก่อสร้างที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้สถาปนิกเลือกทำที่จอดรถลึกลงไปในชั้นใต้ดิน ลงไปตามทางลาดลงไปด้านข้างอาคาร ให้พื้นที่เก็บยานพาหนะที่ปลอดภัย และมีทางเข้าบ้านที่เป็นส่วนตัว แต่หากเข้าจากทางประตูรั้วหน้าบ้านก็จะได้เดินผ่านสเต็ปทางเดินที่ค่อยๆ นำทางไต่ระดับขึ้นไป ระหว่างทางมีสวนขนาบไปด้วยตลอด ทำให้รู้สึกสดชื่นทุกย่างก้าว
ความรู้สึกตื่นเต้นเริ่มขึ้นเมื่อค่อยๆ เปิดประตูหน้าบ้าน ด้วยแสงสว่างและความรู้สึกเปิดโล่งแบบที่ไม่คาดคิด กับพื้นที่บ้านเปิดกว้างทุกด้านโดยมีลานที่เปิดโล่งออกสู่ท้องฟ้าอยู่ตรงกลาง บ้านนี้จึงไม่เพียงแต่มีความรู้สึกของภายในที่ต่างจากภายใน แต่ยังต่างจากบ้านอื่นๆ ที่มีลักษณะที่ดินคล้ายกันด้วย เพราะบ้านแนวตั้งทั่วไปมักจะเทพื้นเพดานปิดทั้งหมด มีช่องว่างเพียงประตูหน้าต่างและโถงบันไดเท่านั้น
การออกแบบบ้านให้มีช่องว่างตรงกลาง ทุกห้องห้อมล้อมลานสวนเอาไว้ทั้งชั้นล่างและชั้นบน ช่วยลดข้ำจำกัดของบ้านหน้าแคบแต่ลึกที่มีมากขึ้นในเวียดนาม นอกจากนี้การทำประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่จนดูราวกับไม่มีผนังกั้น ยังทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ต่างๆ และการผสมผสานที่ลงตัวแสงธรรมชาติในการอยู่อาศัยที่มีแสงสว่างเพียงพอ ในขณะที่ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวที่จำเป็น
ในชั้นล่างจะประกอบด้วยฟังก์ชันสาธารณะ คือ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทานข้าว ที่กระจายตัวอยู่รอบๆ ลานสวน วิธีนี้ทำให้การแบ่งขอบเขตใช้งานแต่ละฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน แต่ก็เข้าถึงกันได้หมด รอบๆ นอกประตูบานเลื่อนจะทำทางเดินไม้เอาไว้ ซึ่งจะถูกคลุมด้วยหลังคากันสาดป้องกันฝน ในแต่ละห้องก็มีฝ้าเพดานไม้ สร้างความรู้สึกเหมือนมีบ้านซ้อนในบ้าน และบรรยากาศแบบกลางแจ้งที่อยู่ภายในอาคาร
สวนในบ้านไม่เพียงแต่เป็นจุดตกแต่งสร้างบรรยากาศธรรมชาติเป็นสถานที่พักผ่อนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยปรับสมดุล ควบคุมสภาพอากาศ และแสงธรรมชาติอีกด้วย บริเวณนี้เป็นทำหน้าที่เป็นปอดสีเขียว ให้อากาศภายนอกเข้ามาสร้างความเย็นในฤดูร้อน รับแสงแดดดึงดูดความอบอุ่นในฤดูหนาว และทำให้อากาศภายในอาคารสดชื่น ไปจนถึงการเชื่อมต่อการจราจรและการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ด้วย
เพื่อให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างพื้นที่อยู่อาศัยและโลกภายนอก สกายไลท์เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ในการออกแบบนี้ นอกไม่เพียงช่วยสร้างช่องว่างที่จำเป็นเพื่อให้การระบายอากาศได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม แสงธรรมชาติจากสกายไลท์ไม่เพียงลดการพึ่งพาแสงประดิษฐ์เท่านั้น แต่ยังเน้นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในภายในบ้านอีกด้วย
แปลนบ้าน