บ้านคอนกรีตบนพื้นที่แคบชัน
การทำงานของสถาปนิก ไม่ได้ทำแค่การออกแบบบ้านให้ตรงใจเจ้าของเท่านั้น ยังต้องศึกษาพื้นที่ สภาพอากาศ จุดเด่น จุดด้อย และหาโซลูชันรับแสง รับลม กรองแสงด้านที่ไม่ต้องการ ที่จะทำให้บ้านเป็นสถานที่ที่อยู่สบายที่สุด ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องเผชิญกับความท้าทายอีกหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการเอาชนะไซต์ที่อยู่ในบริบทของธรรมชาติ เพราะพื้นที่มักจะไม่ได้ราบเรียบ อีกทั้งยังต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” มีบ้านหลังหนึ่งที่สร้างบนเนินริมชายฝั่งทะเล ดีไซน์ดูแปลกตาและน่าสนใจมาก ๆ ทีเดียวครับ
ออกแบบ : Cadence & Co
ภาพถ่าย : Felix Mooneeram
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านหลังนี้มีชื่อว่า Northern Lights หรือแสงเหนือ เป็นผลงานของ Cadence & Co ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อเอาชนะความท้าทายด้านภูมิศาสตร์และธรรมชาติ บนที่ดินขนาดกะทัดรัดมีจุดเด่นคือรอบ ๆ เต็มไปด้วยทิวทัศน์ตระการตาเหนือหาดปาล์มบีชในซิดนีย์ จึงเหมาะกับการสร้างที่พักริมชายหาดให้เป็นสวรรค์ของนักโต้คลื่น แต่การดีไซน์และก่อสร้างแบบสหสาขาวิชาชีพต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เพราะไซต์นี้ไม่เพียงแต่แคบและชันเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับปัญหาเรื่องบริเวณรอบ ๆ ที่รกเกินไป และการเข้าถึงก็ทำได้ยาก ฝนในระหว่างการก่อสร้างก็เพิ่มความยากขึ้นอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงทีมสถาปนิก นักออกแบบ และผู้สร้างอย่างแท้จริง
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
หากมองจากไกลๆ จะเห็นอาคารคอนกรีตและไม้รูปร่างลึกยาว แทรกตัวอยู่ระหว่างวิลล่าสองแห่งขนาดใหญ่ (มาก) ที่มีอยู่เดิม จากถนนหลักทีมงานจะทำทางรถแล่นคอนกรีตขยายขึ้นและลาดลง เพื่อสร้างเป็นแนวหลังคาคอนกรีตอันน่าทึ่งที่กลายเป็นที่จดอดรถส่วนตัวอยู่ข้างบน ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างน่าตื่นตา ยังคงรักษาวิวถนนและมองเห็นวิวทะเลทุกครั้งที่ขับรถขึ้นลงด้วย
แม้ว่ากระบวนการสร้างจะมีความซับซ้อนเป็นชั้นๆ แต่ตัวอาคารเองก็มีความเรียบง่ายของเส้นสาย สตูดิโอตั้งอยู่ใต้หลังคาคอนกรีตโค้งๆ ภายในมีห้องอ่านหนังสือและห้องน้ำแยกต่างหาก แทนที่จะใช้บันไดภายใน สถาปนิกเปลี่ยนตำแหน่งให้เข้าถึงได้ด้วยบันไดภายนอก ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยให้พื้นที่ใช้งานในอาคารกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สถานที่ตั้งเป็นชายฝั่งทะเล มีส่วนอย่างมากที่จะเป็นตัวกำหนดทางเลือกของวัสดุภายนอก เนื่องจากมีสภาพอากาศที่รุนแรง มีความชื้น และไอเกลือทะเลที่มีความเค็มสูง จึงต้องเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน ไม่ต้องบำรุงรักษามาก และอายุการใช้งานยาวนาน เช่น งานคอนกรีตหล่อในที่แบบโชว์ไม้แบบ (off form concrete), ไม้เนื้อแข็ง, ทองแดง สองอย่างนี้ถึงจะแปรสภาพแต่ยังดูสวยงามตามอายุการใช้งานของอาคาร อีกกลยุทธ์คือ ทำผนังที่มี Texture เคลือบพื้นผิว เพื่อการตกแต่งและเพิ่มการป้องกันตัวอาคารจากสภาพแวดล้อมอีกชั้น
การตกแต่งภายในก็ยังคงสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของโครงการ ด้วยการเลือกใช้วัสดุคอนกรีตขัดเงา, พื้นไม้ engineering wood, เฟอร์นิเจอร์ไม้โอ๊ค เติมงานหนังสีเข้ม และองค์ประกอบของงานผ้า ที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่อบอุ่นกับบ้าน รูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้สร้างบรรยากาศของการย้อนเวลากลับไปเล็กน้อย ส่วนของเพดานคอนกรีตที่โค้งสูงตามรูปทรงหลังคาดูเหมือนคลื่น ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเคลื่อนไหว
ห้องนั่งเล่นมีจุดให้พักผ่อนหลายมุม ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งเล่นข้างๆ ตู้ไม้บิลท์อิน เก้าอี้ไม้ดัดตรงมุมห้อง โซฟาหลังตัวหนานุ่ม และระเบียงทางทิศเหนือที่มีประตูกระจกขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับภายใน จากจุดนี้จะมองเห็นภาพวิวต้นไม้ ท้องฟ้า และส่วนโค้งสองกิโลเมตรของปาล์มบีชที่แสนสดชื่นได้เต็มตา เมื่อออกมาชมวิวช่วงเช้าๆ แสงแดดสาดส่องอ่อนๆ มีชากลิ่นหอมละมุนสักถ้วยให้จิบก็เป็นความสุขอย่างที่สุด
พื้นที่ข้างระเบียงติดตั้งครีบไม้แผ่นสวยที่ปรับหมุนองศาได้ ฉากกั้นนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังให้ความเป็นส่วนตัวเมื่อเจ้าของบ้านนั่งอยู่บนระเบียง ขณะเดียวกันก็มองเห็นวิวมหาสมุทรและป่าฝนในแนวทแยง อีกจุดประสงค์ในการออกแบบคือ เพื่อให้ส่วนนี้ดูเบาเป็นการแทรกน้ำหนักเบาระหว่างระนาบแนวนอนที่มีน้ำหนักมากของแผ่นพื้นคอนกรีต
ช่วงบ่ายๆ แวะมานั่งเอนหลังอ่านหนังสือบนเก้าอี้โยกเบาะนุ่มน่านั่ง เปิดบานเกล็ดรับลมทะเล บรรยากาศสบายๆ ชวนให้ผล็อยหลับไม่รู้ตัว
ในห้องน้ำมีกระเบื้อง Old White ที่มี Textureเหมือนคลื่น จาก Earp Bros และโต๊ะเครื่องแป้งควอทซ์ไซต์สั่งทำพิเศษโทนสีวัสดุเรียบๆ เพิ่มเฟอร์นิเจอร์วินเทจที่มาจาก Composition Studio นำความอบอุ่นและลักษณะเฉพาะตัวมาใช้ สุนทรียศาสตร์ของความเรียบง่ายเหล่านี้จะค่อยๆ ลอกชั้นที่ซับซ้อนของชีวิตออกไป
