
บ้านฟาร์มบนเขา ปรับปรุงจากบ้านเก่า
ในแต่ละภูมิภาคของโลกมีสภาพอากาศที่ต่างกันไป ในโซนยุโรปจะมีอากาศหนาวเย็น บรรยากาศดูอึมครึมมีฝนตกชื้น ๆ ช่วงฤดูร้อนสั้น ทำให้สมัยก่อนการสร้างบ้านแถบนั้นจะก่อทึบปิดตัวบ้าน มีหน้าต่างขนาดเล็กและจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับขนาดบ้าน เพื่อเก็บกักความอบอุ่นและคงอุณหภูมิที่เหมาะสมเอาไว้ แต่บ้านโมเดิร์นมีแนวคิดที่ต่างออกไป ด้วยความก้าวหน้าทางการออกแบบ และคุณสมบัติของวัสดุ ทำให้บ้านรูปแบบใหม่ ๆ มีช่องแสงขนาดใหญ่มากขึ้นเพื่อรับแสง แต่ในหน้าร้อนก็ไม่ทำให้บ้านอบอ้าว บ้านจึงอยู่สบายขึ้น เหมือนอย่างบ้านหลังนี้ในออสเตรีย ประเทศที่วันหนึ่งอาจจะมีครบทั้ง 3 ฤดู คือ หนาว ฝน แดด จึงต้องทำให้บ้านรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยได้ดี โดยยังดูเข้ากับสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ
ออกแบบ : Maximilian Eisenköck
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
ถ้าใครได้ไปเที่ยวออสเตรีย แล้วขับรถขึ้นทาง Postalm ก็จะได้เห็นมุมมองทิวทัศน์ธรรมชาติอันแสนงดงามที่ไม่เหมือนใคร ที่นี่อยู่ใกล้ ๆ เมืองซาลซ์บูร์ก เมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของออสเตรีย แต่ในใจกลางทิวเขานี้มีบ้านไร่เก่าที่ถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานและเริ่มทรุดตัวลงมา หากจะปล่อยให้เสียหายไปกว่านี้ก็รู้สึกว่าน่าเสียดาย สถาปนิก Maximilian Eisenköck จึงเข้ามาจัดการกับความท้าทายในการฟื้นฟูอาคารหลังนี้ให้กลับมาใช้งานได้ดีอีกครั้ง จนออกมาเป็นสถาปัตยกรรมที่ดีเยี่ยม ทำให้เห็นความสมดุลและความโดดเด่นที่เชื่อมเส้นกั้นบางๆ ระหว่างสถาปัตยกรรมใหม่และทัศนียภาพโดยรอบเข้าด้วยกัน
ระหว่างการก่อสร้างทีมงานต้องประสบกับความยากลำบากตั้งแต่การขนส่งวัสดุอุปกรณ์ขึ้นมา การจัดการกับบ้านที่มีรูปทรงหลังแปลก ๆ เริ่มจากการจัดการฐานบ้านใหม่เสริมหินเข้าไปให้บ้านแข็งแรงขึ้น ผนังบ้านทำเป็นสองชั้นด้านในเป็นไม้อัดสีธรรมชาติ ตีปิดทับด้านนอกด้วยไม้เก่าสีดำด่าง เพื่อเพิ่มความต่อเนื่องกับธรรมชาติรอบ ๆ และคงอารมณ์แบบบ้านฟาร์มที่อบอวลด้วยร่องรอยของการใช้งาน
แผ่นหินที่เสริมออกมาบริเวณด้านข้างตัวบ้านด้วย ช่วยเติมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวให้บ้านกับภูเขา ดิน ต้นไม้ โดยรอบ ทำให้มีพื้นที่นั่งเล่นเอาท์ดอร์สบาย ๆ เพิ่มขึ้น สามารถออกมานั่งรับลมอาบแดดในวันที่มีแสงอาทิตย์อุ่น ๆ เจาะช่องหน้าต่างขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างรอบ ๆ บ้าน ทำให้ตัวบ้านเปิดมุมมองออกไปได้ในจุดที่ต้องการ และมีช่องในการรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้มากขึ้นด้วย
บรรยากาศภายในบ้านดูสว่างและอบอุ่น เต็มไปด้วยความรู้สึกสบายและสัมผัสของธรรมชาติ ที่เป็นผลมาจากการเลือกกรุผนัง พื้น เพดานด้วยไม้อัดลายไม้ธรรมชาติ ไม่ทำสีก็สวยได้ด้วยเนื้อวัสดุเอง
บริเวณบันไดทางขึ้นใส่ลูกเล่นด้วยการทำราวกันตกสีขาวเป็นริ้วโค้งขึ้นไป เติมความพริ้วไหวให้บ้านดูอ่อนโยน ไม้ที่ปูพื้นกับลูกตั้งลูกนอนบันไดใช้ไม้ชนิดเดียวกันซึ่งให้ลวดลายสวยงามต่างจากผนังซึ่งเป็นไม้คนละชนิด ส่วนนี้ของบ้านจึงโดดเด่นออกมาจากฉากหลัง
ครัวอยู่บนชั้นสองสร้างอย่างเรียบง่าย ด้วยการกรุพื้น ผนัง เพดานด้วยไม้อัดธรรมชาติดูสะอาดตา รอบ ๆ และเจาะผนังใส่กระจกขนาดใหญ่ ช่วยเปิดมุมมองทางสายตาออกไปมองเห็นวิวภูเขาได้ในขณะที่ทำอาหาร กลางครัววางไอซ์แลนด์ขนาดใหญ่สีเทา 2 ชิ้น ที่เป็นได้ทั้งจุดเตรียมอาหาร ส่วนซิงค์ล้าง และปรุงอาหาร สีเทาของชุดไอซ์แลนด์เข้ากับผ้าม่าน การเลือกใช้สีที่ต่างจากรอบ ๆ ช่วยให้ส่วนครัวเด่นขึ้นแต่ไม่ได้โดดออกมาจากภาพรวม ผนังด้านหลังทำจากไม้อัดบิวท์เป็นช่อง ๆ ให้สามารถเก็บเครื่องครัวได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
บ้านที่สร้างอยู่ในเขตอากาศหนาวจัด สิ่งที่บ้านต้องการมากคือแสงที่นาน ๆ อาจจะสาดส่องมาสร้างความอบอุ่นกันเสียทีหนึ่ง การสร้างช่องทางเพื่อกักเก็บความร้อนเอาไว้ในตัวบ้านจึงค่อนข้างสำคัญ สถาปนิกจึงพยายามสร้างช่องแสงเอาไว้รอบ ๆ ตัวบ้าน เป็นหน้าต่างขนาดใหญ่-เล็ก และไม่ลืมที่จะเพิ่มช่องแสงสกายไลท์เอาไว้บนหลังคา เพดาน ตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน เพื่อเพิ่มความว่างและรับแสงที่ส่องมาตรง ๆ บริเวณหลังคา
ห้องน้ำกรุผนังด้วยไม้อัดสีธรรมชาติ และกระเบื้องโชว์แนวการเรียงตัวสีขาว ทำให้ห้องน้ำเล็ก ๆ ดูกว้างขึ้น บริเวณเพดานติดช่องสกายไลท์เอาไว้รับแสงสว่าง เติมอารมณ์สบายให้พื้นที่โดยรวมในขณะใช้งาน
เมื่อมองมาจากมุมไกล ๆ จะเห็นบ้านที่สร้างอย่างถ่อมตัวอยู่กลางทุ่งหญ้า ทิวเขา
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : ผนังกระจกบานฟิกซ์ที่ปิดตาย แม้เปิดรับลมไม่ได้ แต่ก็จำเป็นต้องใช้กั้นขอบที่มีคุณภาพดี เพื่อป้องกันการไหลย้อนของน้ำตอนฝนตก หรือการซึมของน้ำค้างในยามเช้า ไม่ให้เข้ามาสร้างความเสียหายแก่พื้นที่ภายในบ้านได้ |