
บ้านเฉลียงกว้างเชื่อมต่อพื้นที่ชีวิตกึ่งกลางแจ้ง
บ้านก็เหมือนคนที่มีความเปลี่ยนแปลงเสมอ จากที่อยู่หลายคนอาจลดจำนวนลง หรือเพิ่มจำนวนขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม กาเรตรียมการให้บ้านใช้งานได้หลายๆ สถานการณ์ โดยที่ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายเมื่อต้องการ จึงดีกว่าการรื้อสร้างใหม่ภายหลับ อย่างบ้านหลังนี้ที่เป็นของครอบครัใหม่เล็ก ๆ ซึ่งทั้งคู่มีลูกเล็กๆ สองคน เมื่อได้รับบ้านเก่าใน Kibbutz Kfar Masrik และปรึกษากับผู้สร้างแล้ว ก็ตัดสินใจรื้อบ้านเดิมสร้างบ้านสองชั้น โดยให้มัหญ้าและสีเขียวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และปลอดภัยสำหรับเด็กๆ
ออกแบบ : Studio Butke
ภาพถ่าย : Erezhaim
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
บทสรุปของบ้านใหม่ เป็นบ้านส่วนตัว 2 ชั้น อยู่กลางย่านเก่าแก่ใน Kibbutz Kfar Masarik ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิสราเอล พร้อมสนามหญ้ารอบบ้าน เห็นอาคารเหมือนขนาดใหญ่ แต่พื้นที่ก่อสร้างเพียง 40 ตารางวา (เพราะแบ่งครึ่งติดกับเพื่อนบ้านที่ใช้ผนังร่วมกัน) รวมเฉลียงบ้าน 15 ตารางวา และระเบียงดาดฟ้าอีก 20 ตารางวา ซึ่งวิธีการจัดสัดส่วนของพื้นที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าของบ้านให้ความสำคัญกับส่วนงานแบบกึ่งกลางแจ้งที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติมากพอ ๆ กับพื้นที่ใช้งานภายใน
เจ้าของบ้านมีความตั้งใจที่จะเปิดพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จากภายนอก แต่เนื่องจากโครงการนี้เป็นบ้านสองครอบครัว ผนังด้านเหนือใช้ร่วมกับเพื่อนบ้าน จึงตัดสินใจว่าจะทำห้องนอนเด็กและสถานที่เลี้ยงเด็กอยู่ทางทิศเหนือของบ้านติดกับบ้านเพื่อนบ้าน ทำให้พื้นที่สาธารณะของบ้านจะเปิดออกสู่ภายนอกได้ 3 ทิศทาง ตัวบ้านจะยกระดับจากพื้นรอบๆ เล็กน้อยค่อยๆ วางความต่างจากถนนมาถึงทางเดินในสวน และแผ่นคอนกรีตขนาดกว้างในระดับความสูงต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับเฉลียงทางเข้า
ทางเดินเข้าตัวบ้านจะมากจากทิศใต้ไปถึงโถงทางเข้า ซึ่งอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัว โดยที่ทั้งสองด้านก็จะทั้งสองจะมีเฉลียงแยกทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ไม่ว่าจะเปิดประตูด้านไหนก็มีพื้นที่กึ่งกลางแจ้งให้นั่งเล่น
ที่ชั้นล่างของบ้าน ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องครัว พื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่อาบน้ำเด็ก ห้องซักรีด ห้องน้ำ และห้องนอนใหญ่พร้อมห้องน้ำ ที่ชั้นบนสุดเป็นห้องนอนใหญ่ที่ผ่อนคลาย (สำหรับอนาคต) ที่มีครัวเล็กๆ ห้องน้ำ และระเบียงดาดฟ้ากว้าง พื้นที่ภายในบ้านทุกส่วนจะถูกออกแบบให้รับแสงธรรมชาติได้ดี โดยมีประตูกระจกบานเลื่อนเป็นช่องเปิดรับทั้งแสง ลมธรรมชาติ ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศสบาย ช่วยประหยัดค่าไฟไปในตัว
ภายในตกแต่งด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น เส้นสายคมชัดและสะอาดตา ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ที่เดินความจำเป็น แปลน open plan ลดการก่อผนังแยกเป็นห้องเล็กห้องน้อย เพื่อให้บ้านเปิดโล่งเชื่อมต่อถึงกัน นอกจากจะช่วยเรื่องการไหลเวียนของอากาศ การกระจายของแสงที่ทั่วถึงแล้ว ยังทำให้บ้านดูแลง่าย สัญจรสะดวก เด็กเล็กสามารถคลานเล่น วิ่งเล่นได้อย่างไม่มีอุปสรรค โดยยังอยู่ในสายตาผู้ปกครองตลอดเวลา พื้นที่บ้านแบบนี้ไม่เพียงเหมาะกับเด็กเท่านั้นที่ใช้งานได้ดี แม้แต่ผู้ใหญ่หรือผู้สูงวัยก็อยู่ในบ้านแบบนี้ได้อย่างสบายและปลอดภัย
ตู้สูงในห้องครัวทำจากไม้เบิร์ชฟอกขาว และตู้เตี้ยๆ ปิดพื้นผิวด้วยฟอร์ไมก้าสีขาว ตรงกลางมีไอส์แลนด์ขนาดกะทัดรัดจากโครงเหล็กเนื้อดี ท็อปสีขาวและไม้ตัดกันอย่างดีกับเหล็กสีดำ ส่วนหินอ่อนและผนังก็เป็นสีขาวด้านเพื่อรักษาความนิ่งสงบของการออกแบบ ห้องครัวทั้งหมดหันหน้าไปทางด้านนอกสีเขียว พร้อมตู้โชว์ขนาดใหญ่ 2 ตู้และหน้าต่างที่มองเห็นทางเข้า
สำหรับโทนของบ้านพาเลทวัสดุที่ดูสงบ เป็นธรรมชาติ ชุดสีอ่อนๆ อาทิ ไม้เบิร์ชฟอกขาวโฟเมก้าสีขาวในสีของผนัง พื้นกระเบื้องแกรนิตพอร์ซเลนสีเทาขนาด 100/100 ซม. ที่ปูต่อไปจนถึงลานหน้าบ้าน เพื่อเสริมความรู้สึกต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันระหว่างภายนอกและภายใน ในห้องนั่งเล่นแทรกสีฟ้าของชุดโซฟา สีน้ำตาลหนังจากอาร์มแชร์ ผสมผสานกับโครงเหล็กสีดำสนิทให้ความรู้สึกทันสมัยแบบเท่ๆ แต่เมื่อเปลี่ยนไปสู่พื้นที่ส่วนตัว พื้นจะเปลี่ยนเป็นไม้ปาร์เก้สีโอ๊ค และเผยให้เห็นบันไดที่มีลูกนอนไม้โอ๊คและราวตาข่ายสีดำ
ชั้นบนประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ปูด้วยไม้ปาร์เก้ไม้โอ๊ค ตู้เสื้อผ้าก็ใช้โฟเมก้าสีขาวเป็นสีของผนัง และมีเพียงมือจับสีดำเท่านั้นที่เป็นส่วนตกแต่งให้สะดุดตา โทนสีที่สะอาดไม่รก ไม่เยอะ ให้รู้สึกถึงความนิ่ง สงบ ชวนให้พักผ่อน
ส่วนในห้องเด็กตกแต่งโทนอบอุ่นน่ารักตามวัย ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ออกแบบให้เข้ากับสรีระ อาทิ เตียงที่ไม่สูงและมีราวกันตก ชั้นวางติดในตำแหน่งที่เด็ก ๆ หยิบของใช้และเก็บเองได้ โดยมีพื้นที่ใต้บันไดบิลท์เป็นตู้เสื้อผ้าไม่มีลิ้นชักด้านบน ไม่ห้องห่วงว่าตู้จะล้มหากมีแผ่นดินไหว และระหว่างเตียงมีม้านั่ง Birge สำหรับจัดเก็บและนั่งเล่นได้ด้วย ทุกจุดคำนึงถึงความปลอดภัยสำหรับเด็กมาก่อนเป็นอันดับแรก