บ้านคอนกรีตปิดภายนอกเปิดกว้างภายใน
“เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยตา” หากใครเคยอ่านวรรณกรรมเยาวชนผลงานของ อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี คงคุ้นกับประโยคกินใจ ที่แสดงให้เห็นถึงการรับรู้ความหมายของสิ่งพิเศษที่ซ่อนอยู่ ไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณเห็นบนพื้นผิวเท่านั้น ซึ่งถูกนำมาใช้ในการตีความการออกแบบบ้านหลังนี้ด้วย ถ้าเรามองจากภายนอกเราอาจเห็นความสูงตระหง่าน พื้นผิวดิบ กระด้าง ทึบ แต่เมื่อค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปสู่ภายใน จะเห็นว่าทุกมุมเหมือนโลกใบเล็กที่หล่อเลี้ยงด้วยแสง อากาศ ลม และความทรงจำดีๆ ที่อาจมองไม่เห็นด้วยตาแต่สัมผัสได้ด้วยใจ
ออกแบบ : Lohoo Design
ภาพถ่าย : Studio Millspace
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
‘le petit Prince house’ หรือโปรเจ็คชื่อ เจ้าชายน้อย เป็นที่อยู่อาศัยขนาด 628 ตารางเมตร ของครอบครัวสามรุ่น ตั้งอยู่ในมณฑลหยุนหลิน ประเทศไต้หวัน ทางทิศตะวันตกของบ้านติดถนนยาว 11 เมตร แม้จะค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็ยังต้องการความเป็นส่วนตัวและป้องกันภายใสนจากแสง สถาปนิกจึงดีไซน์บ้าน 4 ชั้นนี้ เป็นกล่องคอนกรีตสีเทาโชว์แม่พิมพ์ลายไม้ขยายไปจนถึงด้านใน ทิศตะวันตกเจาะช่องแสงสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เท่านั้น เพื่อปกป้องภายในจากความรุนแรงของแสง อาคารคอนกรีตนี้จะต่อเนื่องกับปริมาตรสีขาวที่ซ่อนสวนภายในสีขาวเอาไว้
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
เมื่อเดินจากประตูรั้วเข้ามาภายใน เราจะเห็นการวางแนวของเพลตที่ยื่นออกมาในแนวนอน และการวางแนวเพลทในแนวตั้งที่ไม่ตรงแนว ซึ่งสถาปนิกใช้ความสูงที่แตกต่างกันของอาคารเดิมและส่วนขยาย สร้างระนาบแนวนอนและแนวตั้งที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดช่องว่างซึ่งเชิญชวนแสงธรรมชาติ ลม และความเงียบสงบมาสู่สวนเซนภายในใจกลางของบ้าน เลือกใช้แผ่นหินและกรวดโรยพื้นสีดำรอบต้นไม้ฟอร์มสวยสีเขียว สามารถเปลี่ยนความรู้สึกให้สวนธรรมดายิ่งงดงาม ชวนให้ค่อยๆ ก้าวย่างลงไปสัมผัสความเป็นธรรมชาติทุกวัน
มุมดื่มชาเป็นหนึ่งไฮไลท์ของบ้านที่ต้องแวะ แนวคิดในการออกแบบเกิดจากจากการสะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวจีนในชนบท ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นชาวบ้านนั่งเก้าอี้เพื่องีบหลับ หรือพักผ่อนใต้ร่มเงาไม้ใกล้ร้านชำในช่วงบ่าย บางครั้งพวกเขาถึงกับย้ายโต๊ะน้ำชาไปไว้ข้างถนนเพื่อดื่มชาและสนทนา สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ทีมงานเห็นว่าจิตใต้สำนึกของผู้คนหวังว่าจะมีความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมภายนอก ไม่ว่าจะเป็นภูมิทัศน์ทางธรรมชาติหรือการสื่อสารกับผู้คน
ด้วยการใช้การเคลื่อนตัวของระนาบของกำแพงเหล่านั้น ลานทางทิศใต้จึงแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ลานสาธารณะจัดเป็นสวน zen และลานส่วนตัวที่เกิดจากช่องว่างที่ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่บ้านด้วย โซนนี้จะกลายเป็นมุมเด็กเล่น มุมอ่านหนังสือ และมุมนั่งเล่น ที่สว่างไสวด้วยแสงจากหลังคาโปร่งใสสร้างบรรยากาศราวกับอยู่กลางแจ้ง
ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ในอาคารด้านหน้า เป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัยระหว่างวัน และสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าหรือเพื่อนฝูงที่แวะเวียนมาเยี่ยม ในขณะที่อาคารด้านหลังเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัว วัสดุผนังคอนกรีตหล่อโชว์ลายแม่แบบแนวตั้งและขยายขึ้นไปด้านบน มีงานไม้และเส้นสายวงกลมเติมความรู้สึกนุ่มนวล และเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รู้สึกถึงการเชื่อมต่อกับธรรมชาติอีกครั้ง ทีมงานจึงแทรกด้วยลานในบ้าน 3 แห่งเชื่อมต่อถึงกัน แล้วเปิดมุมมองให้สัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของแสงและวิวธรรมชาติผ่านประตูกระจกใสด้านข้างขนาดใหญ่
ในบ้านไม่เพียงแต่เปิดรับวิวและแสงจากประตูหน้าต่างด้านข้างเท่านั้น ยังได้วางช่องเปิดขนาดต่างๆ ที่สามารถแหงนมองดูท้องฟ้าได้ และให้แสงแดดส่องจากด้านบนเข้ามาตกกระทบในพื้นที่ในรูปแบบต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาของวันได้ ในแต่ละระดับทั้งแนวนอนหรือแนวตั้ง สามารถมองผ่านพื้นที่ “จริง” ของอาคาร นอกจากนี้พื้นผิวอาคารที่ขรุขระมองเห็นเป็นช่องสูงและรอยต่อสร้างพื้นที่ “เสมือนจริง” ราวกับหุบเขาจำลองในอาคาร
ในห้องครัวสะดุดตากับแท่งคอนกรีตที่แขวนอยู่กลางอากาศ ไอส์แลนด์และเครื่องครัวลายไม้ วัสดุหลัก ๆ ในการตกแต่งพื้นผิวยังคงเป็นคอนกรีตหล่อโชว์ลายแม่แบบ ตัดความรู้สึกดิบกระด้างด้วยพื้นผิวไม้และเส้นสายโค้งเติมความรู้สึกนุ่มนวล ทำให้เกิดความสมดุล รอบห้องมีผนังกระจกและช่องว่างขนาดใหญ่ ทำให้เกิดบทสนทนาระหว่างสภาพแวดล้อมด้านบนและด้านล่าง
ห้องนอนใหญ่ ตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้แผ่นใหญ่สีน้ำตาลเข้มที่มองเห็นริ้วรอยตาไม้ ลาย และรอยเลื่อย ซึ่งทำได้เสมือนจริง การใช้เนื้อสัมผัสของไม้สร้างอารมณ์ความรู้สึกของบ้านที่อบอุ่น คล้ายกับบรรยากาศบ้านหลังเก่าเมื่อสมัยยังเด็ก นอกจากนี้ภายในห้องยังมีแสงและเงาที่สวยงาม ผ่านเข้ามาทางช่องแสงสกายไลท์บนเพดาน ชวนให้นึกถึงแสงที่ส่องลอดช่องแตกบนผิวไม้เติมเต็มความทรงจำให้มีกลิ่นอายอบอวล จนลืมไปว่าภายนอกนั้นเป็นอาคารสูงแบบโมเดิร์นผิวคอนกรีตหยาบๆ ที่แทบไม่มีช่องแสง
แปลนบ้าน
