รีโนเวทภายในภายนอกพลิกโฉมสู่ความอยู่สบาย
ทาวน์เฮาส์ที่ “บ้านไอเดีย” จะพาไปชมในเนื้อหานี้ เป็นโครงการรีโนเวทบ้านเก่าในย่านที่พักอาศัยอันเงียบสงบในเขต Thu Duc นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม บ้านหันหน้าออกไปทางทิศตะวันตก ซึ่งตอนกลางวันแสงแดดจะส่องเข้ามาในห้องด้านหน้าตรงๆ แต่ในบ้านจะกลับกัน คือ ห้องด้านในขาดแสงสว่างและการระบายอากาศ ทำให้อากาศไม่ถ่ายเทจนผู้ใช้รู้สึกอับชื้น ทีมออกแบบจำเป็นต้องออกแบบให้ลดปัญหาเรื่องแสง และมองหาวิธีการสร้างการหมุนเวียนอากาศในอาคาร นอกจากเปลี่ยนภายในแล้วก็พลิกโฉมหน้าให้แตกต่างจากเดิม ไม่เพียงแค่สร้างความสวยงามแต่ต้องตอบโจทย์การใช้งานเช่นกัน
ออกแบบ: APS Concept
ภาพถ่าย: Quang Dam
เนื้อหา: บ้านไอเดีย
ทาวน์เฮาส์ที่ต่างจากบ้านที่ขนาบข้างนี้ ออกแบบโดยนำโจทย์เกี่ยวกับแสงมาเป็นตัวกำหนดรูปแบบสถาปัตยกรรมด้วย เพราะจำเป็นต้องคำนวณแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติและการพาอากาศเพิ่มเติม เพื่อสร้างความรู้สึกสบายที่สุดเมื่ออาศัยอยู่ในบ้าน อีกทั้งเจ้าของบ้านยังมีบุคลิกเท่ๆ และรักงานศิลปะ ดังนั้นการสร้างภาษาการออกแบบที่สะท้อนถึงความประทับใจส่วนตัวของเจ้าของบ้าน โดยดีไซน์ด้านหน้าของบ้านให้เป็นระบบผนังสองชั้น มีฟาซาดแผ่นเหล็กสีดำเป็นเปลือกบ้าน ไม่เพียงแต่ออกแบบการเปิด-ปิดที่ยืดหยุ่นแก้ปัญหาอากาศร้อน แต่ยังแสดงถึงเอกลักษณ์และบุคลิกของเจ้าของบ้านอีกด้วย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
ทีมงานพยายามออกแบบโซลูชันอื่นๆ เพื่อเอาชนะข้อจำกัดที่เกิดจากทิศทางตะวันตก เช่น บนชั้น 2 มีระบบฟาซาดบานเหล็กเจาะรูเป็นเปลือกชั้นนอกที่ปรับได้ตามทิศทางของดวงอาทิตย์ และประตูกระจก Low E แบบบานเลื่อนด้านใน ช่วยควบคุมปริมาณแสงธรรมชาติที่เข้ามาในบ้าน ควบคุมอุณหภูมิ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในห้อ และยังสร้างเอฟเฟ็กต์แสงที่น่าสนใจ การใช้สีดำเป็นสีหลักและใส่ความเข้มของสีที่แตกต่างกันอย่างพื้นผิววัสดุสีน้ำตาล จะสร้างจังหวะให้กับบ้านทั้งหลังโดยไม่ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ทำให้เกิดการออกแบบที่โดดเด่นและความลึกมากขึ้น
จากลักษณะของที่ตั้งเกือบเกือบชิดติดริมถนน ทำให้บ้านต้องการความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ประตูรั้วค่อนข้างสูงและดูปิด เมื่อเข้ามาในบ้านจะพบกับโรงจอดรถที่เว้นพื้นที่หลังคากับประตูรั้วเอาไว้แล้วใส่วัสดุโปร่งแสง วิธีนี้จะเพิ่มความปลอดภัยให้บ้าน และยังดึงแสงธรรมชาติเข้ามา ทำให้ที่จอดรถไม่ดูมืดเกินไป และยังได้แสงที่จำเป็นสำหรับต้นไม้ในสวนหน้าบ้านด้วย
ถัดจากโรงรถจะพบกับประตูกว้าง ๆ เปิดออกเชื่อมต่อกับพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อกัน ทำให้เกิดพื้นที่เปิดโล่งสร้างการขยายภาพที่ลึกเข้าไป และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว การตกแต่งยังคงเน้นสีดำทันสมัย พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่หรูหรา และลูกเล่นของแสงไฟซ่อนตามจุดต่างๆ ที่ทำให้บ้านเหมือนถ้ำลึกลับที่เปล่งประกาย
ความเขียวของต้นไม้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านในทุกจุด ไม่เว้นแม้แต่ใต้บันได
ในส่วนของบันไดบ้านถูกจัดให้ชิดผนังเพื่อปรับพื้นที่ให้เหมาะสม เหนือบันไดมีช่องแสงสกายไลท์กระจายแสงธรรมชาติลงมาในบริเวณนี้ เพิ่มความสว่างในช่วงกลางวันทำให้ปลอดภัยมากขึ้นเมื่อต้องสัญจรขึ้น-ลง แต่ในช่วงกลางคืนบรรยากาศโซนนี้ก็จะเปลี่ยนไปด้วยมิติของแสงสวยๆ ที่ตกแต่งอยู่บนผนัง
ชั้น 2 ห้องนอนทั้งสองห้องได้รับการจัดวางอย่างเหมาะสม ทำให้มั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบจัดวางด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่สำหรับมองออกไปเห็น “สวนเล็กๆ” ภายนอก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางชีวภาพระหว่างผู้คน ต้นไม้ และบ้าน ตลอดจนสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ปิดภายในและพื้นที่เปิดโล่งภายนอกได้อย่างง่ายดาย
ทีมงานสร้างพื้นที่ให้อากาศไหลเวียนอากาศได้สะดวก รวมถึงช่องทางการระบายอากาศให้กับพื้นที่ภายในหลายวิธี อาทิ ประตูหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ การสร้างโถงสูงเหนือบันได หรือการขยับพื้นที่ใช้สอยหลักและห้องนอนให้อยู่ห่างจากผนังด้านข้าง ซึ่งจะทำให้เกิดช่องระบายอากาศตามธรรมชาติที่ทั้งสูงและยาว นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนที่ดี อย่างเช่น แผ่นหิน ไม้ กระจก Low – E ที่ทำหน้าที่สะท้อนเฉพาะความร้อนออกไป ช่วยลดปริมาณความร้อนที่ซึมเข้าสู่บ้าน ในขณะที่ให้แสงสว่างเท่าเดิม
ส่วนชั้น 3 เป็นศูนย์รวมความบันเทิงของบ้านและพื้นที่ทำงาน ห้องแต่งตัว และห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน พร้อมทั้งเป็นมุมจัดเก็บของสะสมที่เป็นความชื่นชอบส่วนตัวของเจ้าของบ้าน พื้นที่ใช้โทนสีเทา-ขาวหลักในการ “เล่น” กับสี จากของตกแต่งภายในและแสงไฟสีขาวเพื่อให้กลมกลืนกันมากขึ้น แต่ถ้าวันไหนอยากเปลี่ยนบรรยากาศให้รู้สึกสนุกขึ้น ก็สามารถเปลี่ยนสีของแสงในห้องสร้างสีสันที่ต่างออกไปได้
นอกจากห้องสันทนาการแล้ว ยังมีห้องแต่งตัว walk-in closet และห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน โดยใช้ธีมสีดำดูเข้ม ลึกลับ น่าค้นหา
ชั้นบนสุดเป็นสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวและแสงธรรมชาติ ภาษาการออกแบบมีความเรียบง่ายตั้งแต่รูปแบบไปจนถึงวัสดุ แต่เน้นคุณภาพและความพิถีพิถันในเส้นสาย และพื้นที่ต่างๆ ได้รับการจัดเตรียมอย่างตั้งใจเพื่อสร้างประสบการณ์ส่วนตัวแต่ยังคงพื้นที่อยู่ การรับรองว่าการเชื่อมต่อหลายมิติกับสภาพแวดล้อมภายนอก คือสิ่งที่ทีมออกแบบต้องการนำเข้ามา KR House ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ครอบครัวสามารถพักผ่อนและพูดคุยกันหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการไปโรงเรียนหรือทำงาน
