
บ้านสองชั้นปรับปรุงใหม่
บ้านสองชั้นที่เรียบง่ายแต่โดดเด่นที่พื้นที่ใช้งานกลางแจ้งหลังนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ย่านธุรกิจที่หนาแน่นไปด้วยอาคารบ้านเรือน ดังนั้นการทำให้บ้านรู้สึกปลอดโปร่งไม่อึดอัดโดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่บ้าน จึงเป็นโจทย์แรกที่สถาปนิกต้องตีให้แตก โจทย์ข้อที่ 2 คือ ที่นี่เป็นอาคารเก่าที่สร้างมาแล้วถึง 127 ปี เจ้าของใหม่ต้องการการปรับปรุงที่ดูสมบรูณ์แบบเพื่อตอบสนองการใช้งานของเจ้าของตามต้องการ การก่อสร้างจึงต้องระวังโครงสร้างเดิมของบ้านไม่ให้ได้รับความเสียหาย เมื่อทำการบ้านเรียบร้อยผลงานที่ได้จึงเป็นแบบที่เราเห็น เป็นที่อยู่อาศัยที่ทันสมัยเต็มไปด้วยแสงและพื้นที่เปิดโล่งดูเป็นกันเอง
ออกแบบ : dubbeldam
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่
บ้านสองชั้นขนาดพื้นที่ 135 ตารางเมตร เดิมเป็นอาคารเก่าร้อยกว่าปีที่ทั้งหน้าแคบ แถมตัวอาคารยังมืดทึบ ตั้งอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ย่านธุรกิจของโตรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อปรับปรุงแล้วสถาปนิกตั้งชื่อโปรเจ็คว่า through house หรือบ้านที่มองได้ทะลุ ซึ่งการออกแบบก็เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของบ้าน ที่อยากได้บ้านที่ดูโปร่งและสว่าง ด้วยการติดผนังกระจกรอบด้าน เพิ่มพื้นที่ลานกว้างกลางแจ้งในแบบที่ดูอบอุ่นเป็นมิตร เพื่อให้คนในบ้านจะได้ชื่นชมความงามของสวนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละฤดูกาล
กลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์ ต้นองุ่นที่ปีนอยู่บนค้าง และต้นเมเปิลญี่ปุ่น ที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ลานกว้างช่วยเติมความสดชื่นตามธรรมชาติให้บ้าน และดูเข้ากับระแนงไม้ไม้สีอ่อนที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ช่วยกั้นแดดทางทิศใต้และตะวันตกในฤดูร้อน ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้พื้นที่ภายในบ้านอาบแสงได้ในช่วงฤดูหนาว แค่มุมเดียวนี้ก็ช่วยให้พื้นที่เมืองอันพลุกพล่านดูเต็มไปด้วยความน่าอิ่มเอมใจ และสงบลงได้อย่างน่าประหลาดใจ
ห้องนั่งเล่นติดกับสวนตกแต่งเน้นสีอ่อน ๆ อย่างสีครีม เทา น้ำตาลอ่อนเป็นหลัก แทรกด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และแผ่นหินเพื่อเติมสัมผัสของธรรมชาติให้อบอวลอยู่ภายใน เป็นการต่อเชื่อมความรู้สึกจากสวนเข้าสู่ภายในไม่ให้ขาดตอน
การตกแต่งภายในเน้นเพื่อสร้างบรรยากาศที่สว่างสดใส อากาศโปร่งสบาย เว้นพื้นที่ให้บ้านได้หายใจด้วยการจัดเป็นพื้นที่เปิด open plan ที่เชื่อมต่อเข้าหากันได้หมด เลยออกไปจนถึงพื้นที่กลางแจ้งที่ถูกนำมาผนวกเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้านได้อย่างแนบเนียน แม้จะมีผนังกั้นระหว่างพื้นที่ภายนอก-ภายในแต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกว่าบ้านถูกปิด ด้วยการใช้กระจกใสเป็นวัสดุหลักในการละลายขอบเขตระหว่างภายในและภายนอก และช่วยสร้างการรับรู้ถึงการยืดขยายพื้นที่โดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่แต่อย่างใด เราจึงสามารถมองบ้านได้แบบทะลุปรุโปร่งมุ่งตรงไปยังสวนได้ง่าย ๆ
ครัวอยู่ในบริเวณชั้นล่าง ไม่มีผนังกั้นแบ่งแยกออกเป็นห้อง ทำให้ส่วนครัวไม่ถูกปิดกั้นออกจากส่วนการใช้ชีวิตอื่น ๆ ของบ้าน แต่ก็เลือกจัดให้อยู่บริเวณมุมที่มีประตูกระจกสามารถเปิดระบายอากาศได้ กลิ่นและควันจึงไม่อบอวลรบกวนพื้นที่อื่นๆ ในบ้าน ความใสของกระจกช่วยรับแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาลดความชื้นในอาคารได้ดี และยังมองเห็นสวนได้แม้ในขณะทำอาหาร
จากมุมครัวสามารถมองเห็นสมาชิกที่นั่งเล่นอยู่ในมุมพักผ่อนหน้าบ้านและสวน การมองเห็นความเคลื่อนไหวทั้งภายในและภายนอกบ้านได้ชัดเจน นอกจากมีผลดีเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของคนในครอบครัวอีกด้วย
บริเวณพื้นที่กลางของบ้านตกแต่งภายในให้มีแสงเข้ามาได้มากทั้งบริเวณด้านข้างและบนเพดาน เพื่อช่วยลดความจำเป็นในการใช้แสงจากหลอดไฟ ตรงบันไดโมเดิร์นที่ดูเหมือนลอยตัวอยู่ก็สว่างจากช่องแสงสกายไลท์บนเพดาน ที่ช่วยให้แสงสามารถเจาะเข้าไปลึกถึงพื้นที่ด้านในได้โดยตรง อีกหนึ่งลูกเล่นคือการใช้แผงกันตกโปร่งแสงข้างบันไดเฉดสีต่างกัน ที่ต่อเนื่องจากจากชั้นล่างเพื่อไปยังชั้นที่สอง และผนังโปร่งแสงขนาดใหญ่ห้องอาบน้ำทำให้มีการเชื่อมต่อของการกระจายแสง บ้านจึงดูสว่างไม่มืดทึบ
ห้องนอนตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ภาพรวมดูเรียบง่ายด้วยโทนสีขาว-น้ำตาล ใช้ของตกแต่งน้อยชิ้น แต่ครบองค์ประกอบในการใช้งาน เส้นสายเรขาคณิตสี่เหลี่ยมของตู้ข้าง ชั้นวาง และเตียง ไม่ได้ทำให้ห้องดูแข็งกระด้าง เพราะถูกเบรกด้วยเส้นโค้งของเก้าอี้สีเปลือกส้มสด และความอบอุ่นจากงานไม้
แปลนบ้าน