
ออกแบบบ้านโมเดิร์นฟังก์ชันไทย
ความแตกต่างในงานออกแบบบ้านแต่ละประเทศ แต่ละภูมิภาค เกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สภาพฝนฟ้าอากาศ วัฒนธรรมและค่านิยมของผู้คนในสังคมนั้น ๆ เราจึงได้เห็นรูปแบบบ้านพักอาศัยที่มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในยุคสมัยที่ข้อมูลข่าวสารยังไม่ได้รวดเร็วอย่างเช่นยุคปัจจุบัน บ้านแต่ละประเทศจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือแม้แต่ภายในประเทศเดียวกันแต่ต่างถิ่นฐาน ก็อาจมีหน้าตาที่แตกต่างได้เช่นกันครับ
แต่เมื่อเข้าสู่ยุคที่การติดต่อสื่อสารไร้พรมแดน ส่งผลให้ค่านิยมและวัฒนธรรมเกิดการเปลี่ยนแปลง ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในงานออกแบบ โดยเฉพาะบ้านสไตล์โมเดิร์นที่แลดูทันสมัย เป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมสูงในยุคปัจจุบัน แต่สิ่งสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้ามนั่นคือ ความเหมาะสมด้านการใช้งานจริง โดยเฉพาะสภาพฝนฟ้าอากาศซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับการอยู่อาศัย ในเนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” นำแนวทางการปรับบ้านไทยให้แลดูโมเดิร์น ในขณะเดียวกันยังคงความเป็นไทยและใช้งานได้อย่างเหมาะสมรองรับสภาพภูมิอากาศทุก ๆ ฤดูกาลครับ
สนับสนุนโดย : SCG Roof Service
ผู้เขียน : อภิสิทธิ์ สุธาประดิษฐ์
ออกแบบโดย : Archimontage Design Fields Sophisticated
ปรับความเข้าใจกันก่อน
จากประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีกับเจ้าของบ้านที่กำลังสร้างบ้านจำนวนมาก พบว่า..ผู้คนส่วนหนึ่งเข้าใจว่า “บ้านโมเดิร์น” คือ บ้านหลังคาแบน หลังคาเพิงหมาแหงนเท่านั้น แต่ความจริงแล้วความเป็นโมเดิร์นไม่ใช่แค่เรื่องหลังคา แต่ยังเกี่ยวข้องกับลักษณะเส้นสาย สีสัน และปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วย
ออกแบบโดย : Kittiya Architects
ตัวอย่างเช่นบ้านไทยโมเดิร์นหลังนี้ ที่มาพร้อมกับเส้นสายที่เรียบง่าย ดูไม่เยอะจนเกินไป ประยุกต์เข้ากับบ้านยกพื้นวิถีแบบไทย ๆ ได้อย่างลงตัว คุมธีมด้วยสีขาวสว่างสร้างความสบายตา ตกแต่งด้วยวัสดุที่เรียบและดูแลรักษาได้ง่าย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
เติมงานกระจก ให้บ้านดูโปร่ง
ความโปร่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้านสไตล์โมเดิร์น และวัสดุที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความโปร่งสบายคืองานกระจก ซึ่งหากผู้อ่านได้ชมงานรีโนเวทอาคารเก่าบ่อยครั้งจะสังเกตเห็นได้ชัดว่า สถาปนิกนิยมเพิ่มงานกระจกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์บ้าน ซึ่งจะช่วยให้บ้านดูโมเดิร์นทันสมัยขึ้นทันตาเห็น ยิ่งมีกระจกเปิดกว้างมากเท่าไหร่จะยิ่งดูโปร่งมากขึ้นเท่านั้น โดยงานกระจกสามารถเลือกใช้ได้ทั้งกระจกบาน fix , ประตูกระจกบานเลื่อน บานเฟี้ยม หน้าต่างบานสูง เป็นต้น
อย่างไรก็ตามงานกระจกไม่เป็นมิตรกับแสงแดดร้อนอย่างเมืองไทยนัก การติดตั้งกระจกจึงควรเลือกทิศทางที่เหมาะสม โดยจะเหมาะสำหรับผนังด้านทิศเหนือหรือบริเวณพื้นที่ที่มีต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงา แต่หากต้องการเปิดกระจกในทิศตะวันตกและทิศใต้ ควรออกแบบให้มีชายคายื่นยาวและออกแบบให้มีวัสดุกรองแสง อาทิ ระแนงไม้เทียม ระแนงอลูมิเนียม จะช่วยลดทอนแสงแดดได้เป็นอย่างดีและในขณะเดียวกันยังสามารถรับลมธรรมชาติได้ครับ
ออกแบบโดย : Ray Architect
ฟังก์ชันบ้านไทย ในสมัยปัจจุบัน
เมื่อนึกถึงฟังก์ชันบ้านไทย ผู้อ่านนึกถึงพื้นที่ใดเป็นพิเศษบ้างครับ ผู้เขียนเองมักนึกถึงโซนใต้ถุนบ้านเป็นลำดับแรก เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่นิยมไว้นั่งเล่นรับลมธรรมชาติ บ้านสไตล์โมเดิร์นก็สามารถทำใต้ถุนได้เช่นเดียวกันครับ แต่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้มีฟังก์ชันที่สามารถเปิดปิดได้ ในวันที่อากาศดี ๆ สามารถเปิดโปร่งโล่ง รับอากาศธรรมชาติ แต่วันไหนอากาศร้อนหน่อยหรือมีฝุ่นมลพิษมากจึงสามารถปิดบานกระจกเพื่อใช้งานเครื่องปรับอากาศแทน
ฟังก์ชันใต้ถุนแบบไทย เปิด ปิดกระจกได้
ออกแบบโดย : Junsekino Architect
เลือกธีมสี ที่ดูโมเดิร์น
แนวทางง่ายๆ ในการเลือกโทนสีสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์นคือเลือกโทนสีที่ไม่ดูฉูดฉาดเกินไป สีที่เหมาะสมกับบ้านสไตล์โมเดิร์นจะเน้นโทนสีที่ให้ค่าความเป็นกลาง อาทิ สีขาว สีเทา เอิร์ธโทน หรือกรณีต้องการเพิ่มสีสันอื่น ๆ ควรให้มีเฉดสีที่ไม่จัดจ้าน เช่น เลือกสีเขียวขี้ม้าหรือเขียวอมเทา แทนสีเขียวอ่อน เป็นต้น
ข้อดีของการเลือกสีโทนกลาง จะช่วยให้การตกแต่งบ้านทำได้ง่ายขึ้น เพราะความเป็นกลางของโทนสีสามารถเข้ากับสีสันอื่น ๆ ได้ง่าย และยังช่วยคุมโทนไม่ให้บ้านหลุดจากกรอบของความเป็นโมเดิร์นครับ
ชานบ้านสื่อถึงความเป็นไทย ใช้โทนสีขาว เทาดำ ให้ลุคแบบโมเดิร์น ออกแบบโดย : Fabian Tan Architect
เพิ่มกิมมิกให้งานหลังคา
อย่างที่เกริ่นนำไว้ข้างต้น ผู้คนส่วนหนึ่งเข้าใจผิดคิดไปว่า บ้านโมเดิร์นจะต้องเป็นบ้านหลังคาแบน เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว เราสามารถออกแบบรูปทรงหลังคาได้อย่างหลากหลาย โดยใช้การเล่าเรื่องผ่านเส้นสาย โทนสีที่ดูเรียบง่าย โดยรูปทรงที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศประเทศไทยต้องมีคุณสมบัติหลัก 2 อย่าง นั่นคือ “กันร้อนได้ดี ระบายน้ำฝนได้ไว” หากเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นจะเหมาะกับทรงปั้นหยาและจั่วครับ
หากต้องการสร้างเอกลักษณ์ให้ตัวบ้าน สถาปนิกจะออกแบบหลังคาให้มีกิมมิกเฉพาะตัวด้วยเทคนิคต่าง ๆ อาทิ ระดับองศาของหลังคาที่แตกต่างช่วยสร้างความแปลกใหม่ การผสมผสานของรูปทรงหลังคา โดยนำหลังคาทั่วไปอย่างจั่ว ปั้นหยา มาใช้งานร่วมกับหลังคา Slab คอนกรีต เพื่อให้ฟอร์มของบ้านดูโมเดิร์นยิ่งกว่าเดิม ส่วนวัสดุหลังคากระเบื้อง ควรเลือกกระเบื้องที่มีความเรียบ โทนสีเข้ม อาทิ สีเทา สีน้ำตาล
ออกแบบโดย : Archimontage Design Fields Sophisticated
จุดที่ต้องระมัดระวัง เมื่อทำบ้านหลังคาโมเดิร์น
1.บริเวณตะเข้ราง เป็นอีกจุดหนึ่งที่เสี่ยงรั่ว ซึ่งมีสาเหตุจากการใส่เศษกระเบื้องไม่ครบ และ การตัดกระเบื้องบริเวณร่องรางห่างเกินไป จากรูปการตัดกระเบื้องบริเวณร่องรางห่างจนสังเกตเห็นส่วนของปีกรางน้ำตะเข้ นอกจากจะไม่สวยงามแล้ว ยังทำให้น้ำมีโอกาสไหลย้อนเลยบริเวณปีกรางได้ ดังนั้นจึงควรตัดกระเบื้องบริเวณร่องราง ให้มีระยะห่างที่เหมาะสม 3-5 ซม. ใส่เศษและยึดเศษกระเบื้องให้ครบถ้วน
2.บริเวณหลังคาต่างระดับที่มีการซ้อนกัน เป็นอีกจุดหนึ่งที่เสี่ยงรั่วได้ ได้แก่
- น้ำจากหลังคารอบบนตกกระทบหลังคารอบล่างโดยมีทิศทางการระบายน้ำสวนทางกัน ทำให้น้ำมีโอกาสไหลย้อนเข้าลิ้นรางของกระเบื้องบริเวณหลังคารอบล่างได้
- บริเวณปลายกระเบื้องจะเป็นจุดระบายน้ำของหลังคา ดังนั้นบริเวณปลายกระเบื้องที่ชนกับผนัง หากไม่มีรางน้ำซ่อนเพื่อรับน้ำและระบายออก จะเป็นจุดเสี่ยงรั่ว
- บริเวณครอบตะเข้สันของหลังคารอบล่างชนปลายกระเบื้องหลังคารอบบน เกิดจากการตั้งระดับของหลังคารอบบนและรอบล่างไม่เหมาะสม จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่สวยงามและที่มีโอกาสรั่ว
แนวทางป้องกันสามารถทำได้ตั้งแต่ติดแผ่นปิดรอยต่อบริเวณเครอบตะเข้สันชนไม้เชิงขาย ติดตั้งแผ่นรองใต้หลังคาบริเวณหลังคารอบล่าง และติดตั้งรางน้ำซ่อนบริเวณปลายกระเบื้องชนผนังเพื่อป้องกันการรั่วซึม ข้อแนะนำตั้งแต่การออกแบบให้ระดับโครงหลังคารอบบนและรอบล่างมีความต่างระดับที่เหมาะสมจะทำให้การจบงานหลังคาบริเวณจุดต่อชนจะสวยงามมากขึ้น
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การออกแบบรูปทรงหลังคาที่แตกต่างไปจากทรงหลังคาทั่วไป หากช่างขาดประสบการณ์อาจส่งผลให้กระบวนการติดตั้งเกิดจุดบกพร่องซึ่งเป็นต้นเหตุของการรั่วซึมได้ ปัจจุบันทาง SCG แบรนด์ผู้นำด้านหลังคา มีบริการติดตั้งหลังคาครบวงจร สำหรับบ้านใหม่ (SCG Roof Service) ที่ดูแลงานหลังคาบ้านแบบเบ็ดเสร็จ
โดยเจ้าของบ้านสามารถนำแบบบ้านมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์, เอสซีจี โฮมโซลูชัน และ เอสซีจี รูฟฟิ่งเซ็นเตอร์ ทุกสาขา ทางผู้เชี่ยวชาญจะตรวจเช็คแบบโครงสร้างหลังคาและประเมินราคาค่าใช้จ่าย เมื่อถึงกระบวนการติดตั้งจะมีวิศวกรคุมงานก่อสร้างให้โดยเฉพาะ พร้อมกับรับประกันงานหลังคาสูงสุด 10 ปี จึงหมดกังวลเรื่องงานหลังคาไปได้เลยครับ
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SCG Home Contact Center โทร. 0-2586-2222
ลงทะเบียนปรึกษาฟรี : http://bit.ly/333TLRo
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : http://bit.ly/2JijyMB http://www.tb-credit.ru/microzaimy.html