
บ้านและที่ทำงาน แบ่งสัดส่วนชัดเจนและลงตัว
บ้านเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาผู้คนไปรู้จักตัวตนและบุคลิกลักษณะของเจ้าของบ้านแต่ละคน บ้านที่โปร่งใสสามารถมองทะลุเข้าไปมองเห็นบางส่วน เป็นหนึ่งสไตล์บ้านที่เป็นเสน่ห์น่าสนใจ แม้จะเหมือนเปิดเผยตัวตนทั้งหมดออกมาแต่ก็ไม่ทั้งหมด เหมือนเช่นบ้านหลังนี้ที่ต้องการให้บ้านและที่ทำงานอยู่ด้วยกัน จึงรวมเอาสตูดิโอทำผมเข้าไว้กับบ้านได้อย่างลงตัว ชั้นล่างเป็นห้องกระจกสี่เหลี่ยมเปิดต้อนรับลูกค้าอย่างเป็นมิตร แต่ชั้นบนเป็นบ้านที่ต้องการปิดมุมสงบเพื่อความเป็นส่วนตัว เติมเต็มทุกความสุขในระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิตได้ในที่เดียวโดยไม่รบกวนกันและกัน
ออกแบบ : ICAA
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
บ้านและที่ทำงาน วิถีชีวิตใหม่ ๆ ที่ไม่ต้องห่างบ้าน
โครงการนี้สถาปนิกวางแผนให้สามารถใช้พื้นที่ร่วมกันของช่างทำผมและบ้านพักอาศัย โดยตั้งใจให้พื้นที่เต็มไปด้วยความรู้สึกสงบด้วยวัสดุและโทนสีของไม้ คอนกรีต และใส่ความเชื่อมต่อภายในภายนอกเหมือนกลางแจ้งด้วยผนังกระจก 3 ด้านของตัวบ้าน ให้รู้สึกว่าอยู่ในบ้านที่มีความเป็นเป็นกันเองด้วยการทำช่องเก็บฟืนอยู่ด้านหน้า ปูพื้นด้วยแผ่นหินนำทางเข้าสู่ตัวบ้าน เมื่อคุณเปิดประตูก้าวเท้าเข้ามาจะสัมผัสกับคอนกรีตที่มีสัมผัสของความเย็นแต่ไม่แข็งกระด้าง เพราะมีงานไม้สีน้ำตาลเข้มและผนังสีขาวเข้ามาเบรค ผนังด้านนอกก่อด้วยก้อนอิฐเก่าสีเทา ทำให้เกิดการไหลลื่นขององค์ประกอบที่ครบทั้งความโมเดิร์น อบอุ่น ในขณะที่ดูสง่างาม
เคาน์เตอร์ต้อนรับลูกค้าทำจากไม้สีน้ำตาลตัดท็อปสีดำ ให้โทนสีกลมกล่อมเหมือนกาแฟ เป็นมุมเล็ก ๆ บนผนังสีขาวที่เชิญชวนให้มานั่งพูดคุยกันแบบสบาย ๆ
ภายในพื้นที่ร้านดูโปร่งและสว่างจากผนังกระจก และเห็นลูกเล่นการติดฝ้าเพดานเป็นลายเรขาคณิต ทำให้ห้องที่ดูเหมือนจะเรียบ ๆ ดูมีมิติขึ้น ที่นี่มีจุดนั่งทำผม 2 จุด ตรงบริเวณผนังสีขาวที่มีรูปต้นไม้เพนท์ขนาดใหญ่ และอีกตัวที่หันหน้าเข้าหาสวน
Hair studio ผนังกระจกใส ดึงธรรมชาติเยียวยาหัวใจ
ด้วยการสร้างบรรยากาศรอบ ๆ ร้านที่เบลอขอบเขตระหว่างภายนอกภายในด้วยผนังกระจก ให้สามารถเปิดวิสัยทัศน์มองออกไปได้รอบด้าน ในขณะที่นั่งทำผมไปพูดคุยกับช่างทำผมไปก็รู้สึกเหมือนได้รับความสดชื่นจากสายลม แสงแดด และต้นไม้ใบหญ้าด้านนอก การมาที่นี่จึงไม่ใช่การแวะมาทำให้สวยขึ้นอย่างเดียว แต่เป็นซาลอนที่ใช้ธรรมชาติช่วยจรรโลงหัวใจให้ผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กัน
ทางขึ้นชั้นสองเป็นบันไดลอยมีเพียงลูกนอน หรือขั้นบันไดคอนกรีตลอยออกมาจากผนังสีดำสนิท มีเพียงราวจับเหล็กบาง ๆ ดูน่าตื่นเต้น สวยงาม และท้าทาย บ่งบอกความเป็นสไตล์โมเดิร์นของบ้านได้อย่างชัดเจน
พื้นที่ส่วนตัวชั้น 2 มองเห็นธรรมชาติในทุกฤดู
เมื่อขึ้นบันไดมาถึงชั้น 2 เราจะพบกับพื้นที่ใช้ชีวิตส่วนตัว มีส่วนของครัวอยู่ติดผนังด้านขวามือ ซึ่งออกจะเป็นการวางตำแหน่งที่แปลกอยู่สักหน่อย เพราะปกติครัวมักจะถูกเก็บไว้ด้านหลัง หรือส่วนในสุด แต่กับบ้านนี้คุณแม่บ้านตั้งใจว่าอยากจะได้ครัวที่สามารถมองออกไปชมความงามของธรรมชาติ ทำอาหารไปเห็นวิวท้องฟ้า ใบไม้ที่เปลี่ยนสีในทุกฤดู จึงเลือกให้เคาน์เตอร์ครัวหันหน้าไปทางผนังกระจก เป็นความสุขเล็ก ๆ ที่สัมผัสได้ในยามทำอาหาร
พื้นที่ครัวอยู่ทางขวามือ ต่อเชื่อมมายังโซนทานอาหาร และมุมนั่งเล่น ที่จัดวางอยู่ในพื้นที่เดียวกันโดยไม่ต้องมีผนังแบ่งกั้นเป็นห้อง ๆ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างสะดวกและสบายไม่อึดอัด ส่วนพื้นที่ข้างบันไดด้านซ้ายมือเป็นสะพานเชื่อมออกไปสู่พื้นที่กลางแจ้งนอกบ้าน ทั่วทั้งบริเวณยังคงคุมโทนสีให้ใช้สีขาวเป็นสีพื้น ตัดด้วยงานไม้บริเวณพื้นและเพดานสร้างความต่อเนื่องทางสายตาแล้วตัดด้วยสีดำ
Mood & Tone ที่แสดงออกผ่านวัสดุแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต อิฐ ไม้ และสี ซึ่งแต่งเติมให้น้อยที่สุด เป็นไปในทิศทางที่นำเสนอความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มบ้านให้มีความนิ่งสงบ แต่ไม่ขาดความสดชื่นจากต้นไม้ วิว และแสงธรรมชาติ ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านในทุกมุม
ในยามค่ำที่แสงไฟส่องสว่างทำให้เห็นความสม่ำเสมอของจังหวะของเส้นสายของผนังกระจกสีดำที่แบ่งเป็นช่อง ๆ ให้เป็นสัดส่วนที่สม่ำเสมอกัน สีของแสงและลักษณะที่แตกต่างของไฟทำให้บรรยากาศแต่ละโซนของบ้านต่างกันออกไป เหมือนตะเกียงดวงใหญ่ที่ส่องประกายใจกลางเมือง http://www.tb-credit.ru/get.html