
บ้านหน้าแคบ ใส่คอร์ทกลางบ้านดึงธรรมชาติสู่ภายใน
บ้านเป็นพื้นที่ที่เราจะได้ปลดปล่อยและเป็นตัวเองมากที่สุด ความเป็นส่วนตัวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกบ้าน แต่ในขณะเดียวกันภายในบ้านก็ต้องการพื้นที่อิสระที่จะใช้ชีวิตได้แบบไร้กรอบ บ้านยุคใหม่จึงนิยมใส่สเปซว่าง ๆ จัดเป็นสวนหรือพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งบริเวณรอบตัวบ้าน ทั้งนี้บ้านบางหลังก็มีข้อจำกัดเกี่ยวกับขนาดที่ค่อนข้างน้อย อย่างเช่นบ้านหลังนี้ในออสเตรเลียที่หน้ากว้างเพียง 5 เมตร แค่สร้างตัวอาคารก็เต็มพื้นที่แล้ว จึงต้องใช้กลวิธีการเจาะเปิดช่องว่างเอาไว้ภายในตัวบ้านเลย ซึ่งน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่มีข้อจำกัดของบ้านคล้าย ๆ กันครับ
ออกแบบ : Elaine Richardson Architect
ภาพถ่าย : Florian Groehn
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
ปิดเป็นส่วนตัวด้านหน้า เปิดพื้นที่อิสระข้างใน
บ้านหลังนี้สร้างอยู่ใน Alexandria ประเทศออสเตรเลีย พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. โจทย์หลักของเจ้าของบ้านซึ่งเป็นสถาปนิกเองด้วย คือ บ้านสำหรับสมาชิก 5 คนที่มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับการใช้งานได้ดีแม้เวลาจะผ่านไปจากนี้อีกนับ 10 ปี เป็นบ้านที่ต้องเปิดออกไปเชื่อมต่อภายนอกและต้อนรับความเขียวขจีและแสงธรรมชาติได้ทั่วทั้งหลัง ภายในเต็มไปด้วยความสดชื่นเหมือนเป็นโอเอซิสกลางเมือง แต่ด้วยหน้าที่ดินกว้างเพียง 5 เมตร และมีความยาวลึกถึงเกือบ 30 เมตร จึงเป็นข้อจำกัดเรื่องแสงและการทำพื้นที่เปิดโล่งให้ใช้ชีวิตกลางแจ้ง นักออกแบบจึงแก้โจทย์ด้วยการสร้างบ้าน 2 ชั้นที่ปิดเป็นส่วนตัวด้านที่ติดถนน และกำหนดช่องว่างตรงกลางและหลังอาคาร เพื่อรับแสงและดึงธรรมชาติเข้าสู่ภายในได้ง่ายขึ้น
ด้านหลังบ้านที่แบ่งพื้นที่เอาไว้สำหรับทำเป็นสนามหญ้า ให้สมาชิกในบ้านทำกิจกรรมได้เต็มที่อย่างเป็นส่วนตัว ถัดจากสนามเป็นชานบ้านที่ปูด้วยไม้เชื่อมต่อเข้าสู่ตัวบ้านผ่านช่องเปิดขนาดใหญ่ ที่ประตูเป็นกระจกสามารถผลักเก็บด้านข้างได้ ช่วยเบลอขอบเขตระหว่างภายในภายนอกได้ดี
“ สถาปนิกออกแบบบ้านของตัวเองนั้นมีทั้งความสนุกสนานและยาก” Laney สถาปนิกเจ้าของบ้านอธิบาย ซึ่งสวนทางกับความคิดของคนทั่วไปที่มักจะคิดว่าสถาปนิกเชี่ยวชาญอยู่แล้ว น่าจะทำงานได้ง่าย แต่เพราะความรู้ที่มีมาก การได้เห็นได้พบรูปแบบ วัสดุ ฟังก์ชันในบ้านแต่ละหลัง กับจำนวนของตัวเลือกที่ผ่านมามากมาย ทำให้อะไรก็ดูดีน่าใช้น่าทำไปเสียหมด การค้นหาผลลัพธ์สุดท้ายนั้นจึงค่อนข้างยากนั่นอง
เจาะเพดานบ้านสร้างพื้นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า
ข้อด้อยของการมีบ้านที่หน้าแคบและลึก คือการถูกจำกัดการเข้ามาของแสงช่วงกลางอาคาร ซึ่งสถาปนิกทราบดีถึงจุดนี้ จึงใช้วิธีเลือกเฉือนเจาะบางพื้นที่ออกเป็น open space หรือที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า เพื่อเปิดทางให้บ้านได้รับแสงแดดและระบายอากาศ ในบ้านที่มี 2 ชั้น จะกลายเป็นพื้นที่โถงสูง (Double space) ที่ดูเหมือนจะเสียพื้นที่ใช้งานของพื้นเพดานชั้นบนไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ามากกว่าหลายต่อทั้งได้รับความสว่าง การระบายอากาศให้ไหลเวียนภายในอาคารได้ดี จนแทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ ดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านสร้างบรรยากาศผ่อนคลายภายใน ให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว เป็นการสละบางสิ่งเพื่อให้ได้บางอย่างที่ดีกว่ามาก
ผลพลอยได้อีกประการหนึ่งของการเจาะพื้นที่บ้านบางส่วนออกให้เป็นอิสระ ทำให้พื้นที่รอบ ๆ open space ในชั้นบนสามารถสร้างความเชื่อมต่อกับชั้นล่างได้ ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหนก็ยังมองเห็นและมีปฏิสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในครอบครัว
มุมนั่งเล่นกลางแจ้งมีได้ในใจกลางบ้าน
คอร์ทยาร์ดเป็นส่วนสำคัญที่จัดเอาไว้ตรงพื้นที่เปิดโล่งสู่ท้องฟ้า เหมือนยกพื้นที่กลางแจ้งมาเก็บไว้ข้างใน ทำให้บ้านหลังนี้มีอัตลักษณ์ชัดเจนไม่เหมือนบ้านไหน ๆ ทั้งนี้ในการออกแบบสถาปนิกได้วางแผนจัดการพื้นที่ในช่วงฤดูฝนที่อาจจะทำให้น้ำฝนเทลงมาสร้างความเสียหายให้บ้าน ด้วยการปูพื้นด้วยไม้ตีให้มีระยะห่างและมีระบบถังเก็บน้ำขนาดใหญ่อยู่ข้างใต้ พร้อมทั้งทำประตูกระจกบานเฟี้ยมซีลขอบยางเอาไว้รอบ ๆ เพื่อฝนลงก็สามารถเลื่อนบานประตูมาปิดจุดนี้ ก็สามารถกันน้ำกระเซ็นและไหลซึมเข้าสู่ตัวบ้านได้
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : บ้านในยุคนี้มีแนวโน้มที่เป็นบ้านหน้าแคบลึกมากขึ้น สำหรับบางครอบครัวที่จำเป็นต้องใช้ชีวิตในที่ดินลักษณะนี้ จึงต้องมองหาแนวความคิดใหม่ ๆ ที่จะทำให้บ้านอยู่สบายขึ้น เช่น การเลือกใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่ในบางจุด เพื่อเปิดบ้านให้มีอิสระไม่ทึบและเชื่อมต่อกับพื้นที่รอบข้างได้มาก สำหรับบ้าน 2 ชั้น อาจจะใช้วิธีลดพื้นเพดานชั้น 2 เหมือนบ้านหลังนี้ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อมุมมองระหว่างชั้น มีที่ว่างระบายอากาศและดึงแสงเข้าสุ่ภายใน ก็ทำให้บ้านหน้าแคบลึกเต็มไปด้วยความโปร่งสบาย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้เช่นกัน |
แปลนบ้าน