
บ้านวัสดุธรรมชาติ
มีคนกล่าวว่า “สถาปัตยกรรมที่ดีมักถูกออกแบบโดยคำนึงถึงธรรมชาติ” ในทางตรงกันข้าม การออกแบบที่ไม่คิดอย่างรอบคอบจะมีส่วนทำให้ธรรมชาติแยกออกจากเรา ระยะหลังจึงเห็นการฟื้นคืนสัมพันธภาพระหว่างคน สถาปัตยกรรม กับธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งบ้านแต่ละหลังก็มีความสัมพันธ์กับธรรมชาติในระดับต่างๆ กัน และต้องยอมรับว่ามีน้อยคนที่จะย้อนกลับไปสู่สามัญด้วยการสร้างบ้านจากวัสดุธรรมชาติ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มี เพราะคนที่หลงไหลในสัมผัสของดิน หิน ไม้ ยังมีอยู่ทุกยุคสมัย อย่างเช่นบ้านหลังนี้ เป็นโครงการที่สะท้อนว่าความรู้พื้นถิ่นและวัสดุจากผืนแผ่นดินมีประสิทธิภาพและทรงพลังอยู่เสมอ ความท้าทายคือการส่งต่อ ปรับปรุง และนำไปใช้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอมตะในขณะที่สอดรับกับโลกยุคใหม่
ออกแบบ : FB+ estudio
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
Casa Condor Casa Condor เป็นบ้านของครอบครัวที่ตั้งอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่งของ Loja ประเทศเอกวาดอร์ ออกแบบและสร้างโดย Freddy Bonilla Estudio บนที่ดินขนาด 2,000 ตร.ม. โดยได้รับความช่วยเหลือจากพนักงานในท้องถิ่นที่เข้าใจสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นเป็นอย่างดี จุดประสงค์หนึ่งของการสร้างบ้านนี้ เพื่อต้องการรื้อฟื้นภูมิปัญญาดั้งเดิมของเอกวาดอร์ โดยสถาปนิกได้รวบรวมโครงสร้างจากวัสดุธรรมชาติรวมทั้งวัสดุเหลือใช้ให้ทีมงานแยกชิ้นส่วนนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นการใช้ประโยชน์จากวัสดุที่มีอยู่ในพื้นที่และปรับให้เข้ากับสถาปัตยกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
รอบบ้านมีเฉลียงขนาดใหญ่และระเบียงหลายแห่ง เนื่องจากบ้านอยู่กลางแจ้ง เจ้าของบ้านจึงต้องการที่จะพื้นที่เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์เป็นกิจวัตรประจำวันในหลาย ๆ มุมตามความสะดวก ประกอบกับลักษณะสภาพอากาศอบอุ่นและมีฝนตกชุก จึงต้องมีโซนในงานแบบกึ่งกลางแจ้งให้นั่งชมธรรมชาติได้โดยไม่รู้สึกร้อนและไม่ถูกฝนจนเปียก
โครงสร้างก่ออิฐผสมผสานไม้ไผ่ ดิน หิน โคลนที่ใช้พอกผนังแบบดั้งเดิม และกก ซึ่งทั้งหมดนี้เก็บเกี่ยวแล้วนำมาก่อสร้างโดยช่างฝีมือท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีหลังคากระเบื้องรีไซเคิลที่ชั้นล่าง ยังได้รับการสนับสนุนโดยฐานไม้ซึ่งประกอบขึ้นด้วยโครงถักขนาดใหญ่สองโครงที่อยู่บนผนังและเสา ปกป้องเฉลียงและสร้างเพดานสูงสองเท่าในห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่
เมื่อเข้าสู่ตัวบ้านจะรับรู้ถึงความดิบของวัสดุบ้าน ๆ ล้อมรอบตัวเต็มไปด้วยบรรยากาศแบบพื้นถิ่น แต่ในมุมนั่งเล่นจะพบโถงที่สูงเป็นสองเท่าที่โปร่งสว่างด้วย skylight ซึ่งเป็นวิธีการทางสถาปัตยกรรมใหม่ ๆ ทีมงานยังได้ร่างเค้าโครงชั้นล่างด้วยระบบค้ำยันของผนังรูปตัว C ช่วยกระจายพื้นที่ทางสังคม ซึ่งประกอบด้วยห้องนั่งเล่นโถงสูง ห้องครัว และห้องนอน 2 ห้อง ซึ่งสามารถเชื่อมเป็นหนึ่งเดียวได้โดยการเปิดประตูบานเลื่อน พื้นที่ทั้งหมดเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายผ่านทางเฉลียงรอบ ๆ บ้าน
บ้านนี้มีเคาน์เตอร์ครัว เคาน์เตอร์บาร์ที่ใช้วัสดุคอนกรีตเป็นหลัก ประตูไม้และเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินได้รับการออกแบบโดยสตูดิโอ ส่วนห้องน้ำสามห้องมีหนึ่งห้องที่ถูกปรับให้เข้ากับการออกแบบใหม่ และใช้อิฐก่อฉาบปูนเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากความชื้น ประตูห้องน้ำบางส่วนเป็นของเก่าที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อความประหยัด และร่องรอยการใช้งานยังไม่ขัดกับลุคของบ้านด้วย
เมื่อย้ายไปที่ชั้นบนจะมีส่วนชั้นลอย ห้องนอนแบบสวีท ห้องซักรีด ห้องนั่งเล่น และระเบียงพร้อมวิวบริเวณโดยรอบ ซึ่งใช้วัสดุอิฐก่อด้วยไม้บาฮาเรค กก และไม้ไผ่ที่พบได้มากในภูมิภาคนี้ เป็นบ้านแบบพอเพียงที่สร้างจากวัสดุง่าย ๆ รวมกับวัสดุเหลือทิ้งเหลือใช้ แต่ไม่รู้สึกว่าด้อยคุณค่าเลย
ลักษณะเฉพาะของห้องชุดและหลังคาแบบปีกนกที่ยกขึ้นสูงด้านหนึ่ง ทำให้มีช่องว่างระหว่างโครงไม้ที่สร้างหน้าต่างด้านบนที่ 30º ช่วยให้มีที่ว่างสำหรับช่องรับแสงดึงแสงธรรมชาติส่องเข้ามา และยังช่วยในการระบายอากาศร้อนออกจากตัวอาคารได้ดีด้วย
บนดาดฟ้ามีม้ามั่งยาวบิลท์อินที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นเตียงนอนอาบแดด ชมดาวได้ ทุกจุดของบ้านจึงสะท้อนให้เห็นว่า สถาปัตยกรรมเป็นทั้งสื่อกลางสร้างความเชื่อมั่นในภูมิปัญญาดั้งเดิมที่จับต้องได้ แต่ขณะเดียวกันก็ประยุกต์เทคนิควิธีวิธีการ แนวคิด รวมถึงไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ได้อย่างลงตัว
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : บ้านที่ทำจากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ ไผ่ ดินหรือโคลนที่พอกฉาบผนังแทนปูน จะมีความทานทานในระดับหนึ่ง และมีข้อดีที่เป็นเหมือนฉนวนกันความร้อนตามธรรมชาติได้ดี แต่ก็ต้องระวังโดยเฉพาะความชื้นจากน้ำที่มาสัมผัสกับผนังโดยตรง เช่น ถูกฝนสาดเข้าผิวหน้าของผนังอาคาร ทำให้บ้านธรรมชาติเหล่านี้รั่วซึม มีเชื้อรา และอาจทรุดโทรมเสียหายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้นที่มีทั้งแสงแดด ฝน ต้องเตรียมวัสดุและการออกแบบให้พร้อมรับมือกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่างๆ ด้วย
|
แปลนบ้าน