
บ้านสองชั้น โชว์ผิวอิฐแบบไม่ปิดบัง
อิฐมอญหรืออิฐแดงเป็นวัสดุสุดคลาสสิคที่นิยมนำมาสร้างบ้านในหลาย ๆ ประเทศ ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทยเท่านั้น ในยุโรปหรือประเทศแถบทวีปอเมริกาใต้ก็นิยมใช้เช่นกัน แม้ในยุคที่มีวัสดุใหม่ ๆ ให้เลือกมากมายแต่ท้ายที่สุดก็ยังมีคนเทใจให้ก้อนดินเผานี้ เพราะตัวอิฐยอมให้ความร้อนถ่ายเทเข้า-ออกได้ง่าย และยังดูดเก็บความร้อนไว้ในตัวเองเป็นเวลานานกว่าจะค่อย ๆ เย็นตัวลง จึงค่อนข้างเหมาะกับการใช้กับบริเวณบ้านเขตร้อน บ้านในบราซิลหลังนี้ก็เช่นกันออกแบบมาโชว์เนื้อแท้ของอิฐแบบไม่ปิดบัง ผสมผสานกับวัสดุอื่น ๆ อย่างลงตัวให้บ้านน่าอยู่อย่างสบาย
ออกแบบ : Cupertino Arquitetura
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
บ้านอิฐสองชั้น ด้านล่างโปร่งเปิดรับลมและแสงธรรมชาติ
บ้านสองชั้นหลังนี้สร้างอยู่ใน Perdizes ประเทศบราซิล เพื่อนบ้านเป็นบ้านเก่าที่สร้างมากว่า 40 ปี และด้วยลักษณะข้อจำกัดของที่ตั้งที่เป็นพื้นที่ต่างระดับ อีกทั้งในบราซิลมีข้อกฎหมายเรื่องความสูงของอาคาร ซึ่งตัวบ้านใหม่จะสูงกว่าบ้านที่อยู่มาก่อนไม่ได้ ทำให้การออกแบบบ้านหลังนี้ยากตรงที่ต้องสร้างบ้านให้มีความสูงพอดีในขณะที่ยังใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ วัสดุและดีไซน์ไม่แปลกแยกออกจากบริบทโดยรอบ และต้องมีความเป็นส่วนตัว สถาปนิกเลือกใช้อิฐที่เป็นวัสดุพื้นบ้านที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นวัสดุหลัก ซึ่งนอกจากจะราคาถูกแล้วยังมีคุณสมบัติที่เหมาะกับสภาพอากาศ เมื่อมารวมกับการออกแบบบ้านให้เหมือนบ้านใต้ถุนสูงโปร่งเบาด้านล่าง ยิ่งทำให้บ้านอยู่สบาย
พื้นที่ส่วนที่ติดถนนอยู่ระดับเดียวกับเพื่อนบ้าน แต่พื้นที่ด้านในเป็น slope ต่ำลงไป ทำให้สถาปนิกต้องปรับเปลี่ยนทิศทางของบ้านกลับด้านกับบ้านทั่วไป โดยจัดให้บริเวณถัดจากประตูรั้วบ้านด้านหน้าเป็นลานที่จอดรถ 2 คน จากนั้นจึงมีทางเดินเชื่อมเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งทำเป็นอาคารอิฐแดงรูปทรงสี่เหลี่ยมดูปิดตัวออกจากถนน ให้โซนการใช้ชีวิตส่วนตัวซึ่งปกติจะอยู่ติดกับประตูหน้าลงไปอยู่ด้านล่างที่ตำลงไปแทนเพื่อความเป็นส่วนตัว
ชั้นล่างของตัวบ้านใช้เสาเป็นตัวรับน้ำหนัก จึงง่ายต่อการใส่ผนังกระจกเปิดผนังชนมุมออกทั้งสองด้าน บ้านจึงเหมือนไม่มีผนังสามารถรับลมและสัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ห้องผนังกระจก ดึงธรรมชาติรอบ ๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน
ห้องที่ชั้นล่างเป็นห้องโล่ง ๆ ติดกระจกโปร่งใสรอบ ๆ เพื่อให้บ้านได้รับแสงธรรมชาติจากทุกทิศทาง ภายในจัดวางห้องครัวและห้องรับประทานอาหารเอาไว้ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นห้องนั่งเล่นติดต่อกับสวนรายรอบ ช่วยดึงให้ทุกคนในครอบครัวมาทำกิจกรรมต่าง ๆ กันได้ในพื้นที่เดียวกัน
ห้องครัวตกแต่งเคาน์เตอร์ครัวและไอส์แลนด์เตรียมอาหารแบบง่าย ๆ เป็นโต๊ะไม้โครงเหล็กเรียบ ๆ รอบด้านเป็นกระจกจึงมองเห็นวิสัยทัศน์สวนและส่วนอื่น ๆ ของบ้านได้ชัดเจนแม้กำลังง่วนอยู่กับการปรุงอาหารก็ไม่ขาดการติดต่อ
ช่องแสงช่องลมและที่ว่างขนาดใหญ่ เว้นจังหวะให้บ้านหายใจ
ด้วยลักษณะที่ดินที่เป็น slope ต่ำลงไป หากก่อสร้างตัวอาคารโดยใช้วัสดุทึบอย่างอิฐทั้งหมดจะทำให้บ้านขาดแสงสว่าง สถาปนิกจึงเพิ่มช่องทางในการรับแสงด้วยการติดผนังกระจกโดยรอบชั้นล่าง และใส่ที่ว่างและช่องแสงในกึ่งกลางอาคารบริเวณบันไดทางขึ้นชั้นสอง ซึ่งไม่เพียงแต่เติมแสงให้บ้านแต่ยังทำหน้าที่แยกพื้นที่บ้านออกเป็น 2 volume ด้วย
มุมนั่งเล่นตกแต่งเรีนบง่ายด้วยพื้นไม้ดูอบอุ่น จากจุดนี้สามารถรับบรรยากาศธรรมชาติได้ทั้งด้านในตัวบ้านจากสวนไม้ใบเขียวเล็ก ๆ ใต้บันได และสวนด้านนอกผ่านผนังกระจก และยังเติมความน่าสนุกให้บ้านด้วยงาน Graffiti เท่ ๆ ที่ทำเอาๆไว้บนผนัง
ด้านบนระหว่างโซนที่ถูกแบ่งออกจากกัน มีทางเดินเล็ก ๆ เชื่อมต่อไม่ให้การสัญจรไปตามจุดต่าง ๆ ของบ้านสะดุด เหนือทางเดินมีช่อง Sky Light ที่เปิดรับแสงจากภายนอกเข้ามาภายในบ้าน ใส่หน้าต่างชั้นสองและเว้นช่องว่างระหว่างผนังอิฐให้เป็นช่องลมสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เพื่อเปิดให้อากาศไหลต่อกันไปได้
ห้องนอนบนชั้นสอง ติดผนังกระจกทั้งสองด้านมาบรรจบกันที่มุมห้อง ทำให้สามารถเปิดมุมมองออกไปได้กว้างกว่าเดิม โดยที่ไม่มีอุปสรรคมาขวางกั้น ผู้อยู่อาศัยจึงได้รับความสดชื่นจากวิวธรรมชาติตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน
ห้องน้ำบรรยากาศน่ารักน่าใช้งาน ด้วยการตกแต่งกระเบื้องพื้นลวดลายและสีสันสดใส และใส่ธรรมชาติเข้าไปสร้างความผ่อนคลายภายใน ผนังด้านใดด้านหนึ่งใส่ช่องลมสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ จนเต็มพื้นที่ให้แสง ลม กระจายตัวอยู่ภายใน ทุกครั้งที่เข้าใช้งานจึงเต็มไปด้วยความสุนทรีย์
มุมมองบ้านในยามค่ำ จะเห็นแสงสว่างที่ส่องลอดช่องว่างที่เจาะเป็นระยะอยู่บนผนัง เป็นการสร้างมิติให้บ้านน่าสนใจโดยไม่ต้องลงทุนใช้วัสดุหรูหรา ส่วนที่เป็นผนังกระจกเหมือนบ้านไร้ผนังเชื่อมต่อพื้นที่ภายในภายนอกให้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
แปลนบ้าน