
SCG Active AIR Quality
มลพิษในอากาศ แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ใช่ว่าจะไม่มี ในทางกลับกัน สิ่งปนเปื้อนล่องลอยในอากาศเหล่านี้อาจมีมากกว่าที่เราคิด ไม่เพียงแต่อากาศนอกบ้านเท่านั้น ภายในบ้านเองก็หนีไม่พ้นจากฝุ่นละลองเล็ก ๆ และเชื้อโรคต่าง ๆ เมื่อเราหายใจเอามลพิษผ่านเข้าไปในร่างกายทุกวันโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แม้จะใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน นอกจากจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองเยื่อบุทางเดินหายใจ ไอ จามแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบลามไปถึงการทำงานของปอดได้ ถ้ายังต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ต่อไปถึงจะมีอะไหล่ปอดกี่ชิ้นก็คงรับมือไม่ไหว แต่ในความเป็นจริงนั้นปอดไม่มีอะไหล่ขาย หากต้องการให้ร่างกายห่างไกลจากภูมิแพ้อากาศ ต้องมีตัวช่วยเติมอากาศที่ดี ให้บ้านกลายเป็นที่ปลอดภัยต่อการหายใจอยู่เสมอ
สนับสนุนโดย: SCG Smart Living
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
ทำไมเมื่ออากาศเปลี่ยน ภูมิแพ้จึงกำเริบ
บ่อยครั้งที่เรารู้สึกว่าคันจมูก น้ำมูกไหล ไอหรือจามอีกแล้ว โดยทั่วไปจะเข้าใจว่าเป็นอาการแพ้อากาศ เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป แต่จริง ๆ แล้วคำว่า แพ้อากาศ (Allergic Rhinitis) นั้น ไม่ใช่การแพ้เมื่อเกิดการเปลี่ยนอุณหภูมิ หรือแพ้ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นองค์ประกอบของอากาศ แต่เป็นอาการแพ้สิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกัน ซึ่งล่องลอยอยู่ในอากาศ
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมเมื่ออากาศเปลี่ยนจึงเกิดภูมิแพ้กำเริบได้ นั่นเป็นเพราะเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง เช่น เปลี่ยนจากร้อนไปฤดูฝน ปลายฝนไปฤดูหนาว อุณหภูมิและความชื้นจะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสารก่อภูมิแพ้บางอย่าง เช่น ไรฝุ่น, เกสรดอกไม้, สปอร์ของเชื้อรา ผู้ที่ป่วยภูมิแพ้ทางเดินหายใจได้ง่าย จะมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นเหล่านี้มาก แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทำให้อาการกำเริบได้ หากสูดดมเอาสิ่งเหล่านี้เข้าไปเรื่อย ๆ ในปริมาณมาก บางคนถึงกับหายใจลำบากจนเกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหืดหอบ
อยู่แต่บ้าน ก็ป่วยภูมิแพ้ได้ ?
แน่นอนว่าได้ครับ เพราะสิ่งปนเปื้อนหรือสารก่อภูมิแพ้ไม่ได้มีเพียงนอกบ้านที่ล่องลอยเข้าสู่ตัวบ้านได้ทางช่องว่างตามจุดต่าง ๆ เท่านั้น ภายในบ้านเองก็มีสารระคายเคืองปะปนอยู่เช่นกัน ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้หลายคนอาจนึกไม่ถึง จึงเลือกอยู่แต่ในบ้านเพื่อหลบเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้นอกที่อยู่อาศัย (Outdoor Allergens) แต่อาการกลับไม่ดีขึ้น แถมเข้าบ้านปุ๊บก็จามปั๊บ นั่นเป็นเพราะไม่ว่าจะเป็นวัสดุตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ต้นไม้ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงในบ้านก็มีสารระคายเคืองก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน
วิธีควบคุมสารก่อภูมิแพ้และปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน
อาการภูมิแพ้อากาศนั้น ส่วนใหญ่ถ้าเป็นในเด็กจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามอายุ ยิ่งได้รับการรักษาเร็วก็มีโอกาสหายได้มาก อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันแพทย์ก็ไม่ยืนยันว่าอาการภูมิแพ้นั้นจะสามารถหายขาดได้ 100 % แต่การดูแลตัวเองและการจัดการสารก่อภูมิแพ้ พร้อมปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน จะช่วยลดอาการให้น้อยที่สุดจนแทบจะไม่กำเริบได้ โดยเราสามารถทำได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1.หลีกเลี่ยงและลดการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้
ข้อนี้เราต้องจัดการกับตัวเอง โดยการหมั่นสังเกตว่า เราอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนแล้วเกิดอาการ เช่น อยู่ใต้ต้นไม้ ห้องเก็บของ ขณะเข้าไปในเมือง เมื่อพบว่าอยู่ในสถานการณ์ไหน บริเวณไหนแล้วรู้สึกถึงอาการแพ้ก็หลีกเลี่ยง หากไม่แน่ใจก็ต้องไปทดสอบดูว่าแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดไหนจะได้หลีกเลี่ยงถูกจุด
2.ลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้าน
การจัดการสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้สะอาดถูกสุขลักษณะ เป็นสิ่งจำเป็นในการลดสารก่อภูมิแพ้ อาทิ การรักษาพื้นผิวบ้านให้สะอาดและเป็นระเบียบ พื้นและผนังจัดให้โล่ง ลดจุดอับที่สะสมฝุ่นและทำความสะอาดยาก โดยเฉพาะในห้องนอน หลีกเลี่ยงการปูพรมผืนใหญ่ ใช้พรมเช็ดเท้าที่สามารถซักได้ เปลี่ยนผ้าม่านและเฟอร์นิเจอร์ผ้าหนา ๆ เป็นมู่ลี่ ม่านม้วน หรือม่านที่ซักได้ การทำความสะอาดควรใช้เครื่องดูดฝุ่นมากกว่าการกวาด เพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น
ลดสารก่อภูมิแพ้ภายนอกที่จะเข้ามารบกวนในบ้าน โดยปิดหน้าต่างและประตู ใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงอากาศร้อน เพื่อควบคุมไรฝุ่นและลดความชื้น หรือติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ (Air purifier) เพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีอยู่เสมอ
3. เครื่องเติมอากาศดี SCG ลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ตั้งแต่ก่อนเข้าบ้าน
สำหรับผู้ที่เสี่ยงต่อการกำเริบของอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจ แม้จะเลือกปิดบ้านแล้วติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ให้ระบบการกรองอากาศช่วยลดปัญหาคุณภาพอากาศในพื้นที่ปิด ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะฝุ่นละอองขนาดเล็ก (ฝุ่น PM 2.5 ) ที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ตัวสำคัญ ยังสามารถลอยเข้าสู่ภายในตัวบ้านได้ตลอดเวลา เพื่อให้อากาศสะอาดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ต้องเปิดเครื่องฟอกอากาศให้ทำงานทั้งวัน แต่เมื่อปิดเครื่องค่าฝุ่นต่าง ๆ ก็ขึ้นมาเหมือนเดิม ดังนั้นหากต้องการลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน จึงควรเจือจางสารปนเปื้อนในอากาศให้เหลือน้อยที่สุด ปรับอากาศให้ดีตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้น โดยใช้ระบบการเติมอากาศดีที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ
SCG Active AIR Quality ระบบการจัดการคุณภาพอากาศภายในบ้าน ทำงานด้วยการเติมอากาศดี สะอาด และปลอดจากฝุ่น PM 2.5 รวมไปถึงการกรองเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสต่าง ๆ ได้ถึง 99 % โดยใช้หลักการดึงอากาศใหม่จากภายนอก แล้วผ่านฟิลเตอร์กรองอากาศถึง 5 ชั้น แต่ละชั้นมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ช่วยในการกรองอากาศให้สะอาดก่อนเติมอากาศใหม่ที่มีออกซิเจนเข้าสู่ตัวบ้าน
หลักการที่สำคัญของเครื่องเติมอากาศดี SCG Active Air Quality ที่เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิกไวต่อสิ่งกระตุ้นอาการภูมิแพ้อากาศ คือ เครื่องจะทำงานด้วยหลักการ Positive Pressure หรือแรงดันบวก ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการทำห้องปลอดเชื้อในโรงพยาบาล แรงดันบวกนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเครื่องดึงอากาศใหม่เติมเข้ามาเรื่อย ๆ ในห้องปิด จนอากาศภายในบ้านมีแรงดันเป็นบวก หมายความว่าแรงดันอากาศภายในจะมีมากกว่าแรงดันอากาศนอกบ้าน แรงดันบวกจะทำหน้าที่ดันอากาศเสียที่คงค้างอยู่ภายในออกไปตามช่องว่างต่าง ๆ อย่างขอบประตูหน้าต่างตลอดเวลา ทำให้สิ่งปนเปื้อนและมลภาวะนอกบ้านไม่สามารถเข้าสู่ภายในบ้านได้
สำหรับผู้อ่านที่สนใจติดตั้งเครื่องเติมอากาศดี SCG Active AIR Quality สามารถติดต่อสอบถาม หรือเข้าชมระบบตัวอย่างได้ที่ได้ที่ SCG Experience, SCG Home Solution มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจหน้างาน ประเมินราคา ตลอดจนการติดตั้งที่รวดเร็วได้มาตรฐาน
และพิเศษสำหรับงานบ้านและสวน โปรอากาศดีสำหรับงานบ้านและสวนแฟร์ 25 ต.ค. – 3 พ.ย. 2567 SCG Active AIR Quality รับส่วนลด 15% ตั้งแต่เครื่องแรก เริ่มต้น 13,515 บาท/เครื่อง (รุ่น XM60i ปกติ 15,900บาท) พบกันที่งานบ้านและสวน หรือ ช้อปได้ที่ https://www.scghome.com ใสโค้ด BLS24AAQ15
รายละเอียดเพิ่มเติม
เว็บไซต์ : SCG Smart Living | โทร. : 02-586-2222