บ้านหน้าแคบ ข้อจำกัดที่ทำอะไรเราไม่ได้

The Cable House เป็นโปรเจกต์การแปลงกระท่อมเล็ก ๆ ของคนงานที่เล็กและมืด ให้กลายเป็นบ้านโมเดิร์นขนาด 230 ตารางเมตร สิ่งที่น่าสนใจคือวิธีการของสถาปนิกแก้ปัญหาที่สง่างามตอบรับความท้าทายที่เกิดจากข้อจำกัดของที่ดินที่หันไปทางทิศใต้และมีหน้าแคบ สภาพแวดล้อมในเมืองที่หนาแน่น และบริบทรอบข้างที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลในเมลเบิร์น โจทย์หลัก ๆ ที่สถาปนิกได้รับจากเจ้าของบ้านคือ ต้องออกแบบให้มีแสงสว่างพื้นที่ทำงานที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวเล็ก ๆ ภายในจุดอื่น ๆ ไม่มืด และยังคงรู้สึกถึงความต่อเนื่องของพื้นที่โดยรอบ

ออกแบบ : Tom Robertson
ภาพถ่าย : Tatjana Plitt
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านหน้าแคบสไตล์โมเดิร์น เปิดโปร่งให้ดูกว้าง

นักออกแบบดีไซน์เป็นบ้าน 2 ชั้นทรงสูงหลังคาหน้าจั่วแบบโมเดิร์นที่โดดเด่นแต่รายละเอียดเรียบง่าย โทนสีขาวนิ่ง ๆ ไม่จัดจ้าน ทำให้มั่นใจว่าจะไม่โดดออกจากบ้านข้าง ๆ จนเกินไป การทำงานกับพื้นที่เล็ก ๆ จึงต้องจัดสรรให้ดี เพื่อให้สมดุลกับความต้องการใช้งานทั้งภายในภายนอก บ้านทุกหลังควรต้องมีทั้งพื้นที่ในอาคารและมุมใช้กลางแจ้ง ทีมงานจึงเว้นพื้นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าหน้าบ้าน แล้วออกแบบประตูให้กว้างที่สุดเพื่อรวมพื้นที่นั่งเล่นเข้ากับสถาปัตยกรรม เป็นการเชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างที่เจ้าของบ้านต้องการ

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

พื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง แม้จะมีไม่มากแต่ก็ดึงสมาชิกในบ้านให้ออกมาใช้ชีวิตนอกอาคารรับแสง สายลม ชมวิวท้องฟ้า ไม่อุดอู้อยู่ภายใน

บ้าน open plan ลื่นไหลไร้รอยต่อ

การออกแบบภายในชั้นล่างเปิดเป็นห้องโถงโปร่ง ๆ แบบ Open plan วางโซนสาธารณะที่จะใช้ร่วมกัน อาทิ ครัว มุมทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเรียงต่อกันไป โดยไม่ต้องมีผนังเพื่อไม่ให้กั้นการเดินทางของแสง เชื่อมต่อพื้นที่ให้ไหลลื่น สำหรับพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องทำงานและห้องนอนจัดแยกให้อยู่ชั้นบน โทนสีที่ใช้ในบ้านเน้นสีอ่อน ๆ และไม้ เพื่อให้สะท้อนแสงสร้างภาพลวงตาให้อาคารดูกว้างขึ้น ตัดเส้นสายตาด้วยสีดำและต้อนไม้ ไม่ให้บ้านนิ่งเรียบจืดชืดจนเกินไป

ครัวขนาดกะทัดรัดที่ประกอบด้วยไอส์แลนด์ 1 ตัว ที่ปรับใช้เป็นบาร์ ทานอาหาร หรือนั่งอ่านหนังสือได้ และเคาน์เตอร์บิวท์ติดผนัง ความกว้างแลความลึกคำนวณมาให้พอดีกับพื้นที่ และยังเหลือที่ว่างสำหรับสัญจรไมด้รอบ ๆ ด้านข้างบิวท์ม้านั่งยาวเพิ่มพื้นที่นั่งเล่นสบาย ๆ หรือจะใช้ต้อนรับแขกในวันปาร์ตี้ โดยไม่ต้องวางเก้าอี้หลาย ๆ ตัวให้รบกวนพื้นห้อง

ช่องแสงกายไลท์รับแสงได้จากด้านบน

ในบ้าน 2 ชั้น แน่นอนว่าจะต้องมีพื้นเพดานปิดกั้นแบ่งระหว่างชั้น ซึ่งเป็นหนึ่งสาเหตุทำให้บ้านขาดแสง ในบ้านนี้จะพยายามเพิ่มความโปร่งและสว่างให้มากที่สุดด้วยการเพิ่มช่องเปิด ทั้งจากด้านข้างและจากด้านบน อาทิ การเจาะเพดานบริเวณบันไดให้กว้างขึ้นเปิดเป็นพื้นที่โถงสูงแบบ Double volume เพื่อให้แสงเดินทางได้สะดวกและยังเป็นการเชื่อมต่อชั้นบนกับชั้นล่างให้ใกล้ชิดขึ้นด้วย ส่วนผนังด้านข้างที่ติดกับสวนใช้ประตูกระจกติดหน้าต่างบานเกล็ด เพื่อความโปร่งให้บ้านลดความทึบของผนังก่ออิฐพร้อม ๆ กับรับแสง และเพิ่มสกายไลท์บริเวณเหนือบันไดและด้านบนของเคาน์เตอร์ครัว นำแสงธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่บ้านได้ในทุกจุดที่ต้องการ

บริเวณบันไดเป็นบันไดสไตล์โมเดิร์นที่เปิดโปร่งไม่มีลูกตั้ง ใช้สายเคเบิลยึดโยงตัวบันไดเอาไว้กับเพดาน ในส่วนนี้เจ้าของบ้านนำต้นไม้เถาเลื้อยไต่ตามสายเคเบิ้ล เพิ่มความสดชื่นจากธรรมชาติเข้ามาในหัวใจของบ้าน

ขึ้นมาถึงชั้น 2 จะพบกับมุมทำงานที่เชื่อมต่อกับโถงสูง จึงสามารถติดต่อปฏิสัมพันธืระหว่างชั้นได้ง่ายขึ้น บนหลังคาเจาะช่องแสงสกายไลท์ตรงกับบันไดพอดี จึงเพิ่มความปลอดภัยในการขึ้น-ลง มุมทำงานก็ได้รับความสว่างจากแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอเช่นกัน

ห้องนอนเล็ก ๆ ที่ไม่รู้สึกแคบ

ห้องนอนบนพื้นที่ใต้หลังคา แม้จะเล็กแต่ไม่รู้สึกแคบ เพราะหลังคาที่แหลมสูงและตีฝ้าตามแนวหลังคา ช่วยเติมความรู้สึกสูงโปร่งไม่อึดอัด ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทั้งหมดเป็นวิธีการใส่อิสระทางสายตาให้อาคารและดึงเอาธรรมชาติภายนอกมาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านได้ดี ส่วนเฟอร์นิเจอร์เน้นชิ้นที่จำเป็นเท่านั้น และบิวท์ผนังให้เป็นพื้นที่จัดเก็บ ซึ่งจะทำให้ห้องมีพื้นที่จัดเก็บที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่รก ไม่แคบ