
ตกแต่งห้องสไตล์นอร์ดิก
บ้านไม่ได้เป็นแค่สถานที่หลบแดด ฝน พักอาศัย แต่เป็นพื้นที่ชีวิตที่ “คน” เริ่มเรียนรู้ที่จะหายใจ เรียนรู้ที่จะหัวเราะ และสร้างความทรงจำจากรุ่นสู่รุ่น ภายในบ้านจึงมีตัวตนของสมาชิกในบ้านอยู่ในทุกจุด อาจจะเป็นของตกแต่งที่คุณพ่อเก็บสะสม ผ้าผืนโปรดของคุณแม่ ตุ๊กตาของน้อง กรอบรูปของพี่ แต่สำหรับบ้านบางหลังอาจจะเลือกใส่บุคลิกที่แตกต่างด้วยวิธีการสาดสีที่ชอบเข้าไป อย่างเช่นในอพาร์ทเมนท์ในไทเปที่ทาสีแสนสดใส เหมือนเก็บเอาสายรุ้งเข้ามาเก็บไว้ด้านใน ทำให้บ้านสดชื่นและตอบโจทย์ความชอบของสมาชิกแต่ละคนได้อย่างลงตัว
ออกแบบ : Nestspace
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
ปรับปรุงบ้านเก่าให้สดชื่นด้วยแสงและสีสัน
โปรเจ็คนี้เป็นการปรับปรุงบ้านเก่าขนาด 99.17 ตารางเมตร ในเขตเน่ยหู เมืองไทเป ซึ่งเจ้าของบ้านเป็นคู่แต่งงานใหม่ที่มีบุคลิกร่าเริงและมีสมาชิกในครอบครัวอยู่ด้วย จึงอยากให้บ้านอายุ 15 ปีที่ดูทรุดโทรมดูดี สว่าง และสดชื่น หลังจากทีมงานทำความเข้าใจตัวตนและความต้องการหลัก ๆ ของเจ้าของบ้านทีมงานออกแบบจึงลงมือปรังปรุงบ้านด้วยคอนเซ็ป “urban oasis” ความชุ่มชื่นกลางเมืองใหญ่ ทำให้บ้านเต็มไปด้วยแสงสว่าง ต้นไม้ใบเขียว ใส่วัสดุธรรมชาติอย่างไม้สีอ่อน ๆ และสาดสีสด ๆ เข้าไปในบางจุด ซึ่งช่วยเปลี่ยนบรรยากาศของบ้านในทันทีด้วยงบประมาณที่ถูกลง ที่นี่จึงเป็นเหมือนการเดินทางของชีวิตที่สดใสในสไตล์นอร์ดิกที่ประยุกต์ให้เข้ากับผู้อยู่
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
การค้นหาแรงบันดาลใจในการเลือกสีเป็นสิ่งที่ต้องถามตัวเองก่อนลงมือ เพราะถ้ามีสีที่ชอบแต่ทาไปแล้วไม่เหมาะกับบ้าน ไม่ถูกใจ จะต้องทนอยู่กับสีที่ขัดตาไปอีกนาน วิธีง่ายๆ อาจจะเลือกจากจากของใช้สุดโปรดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นบนเสื้อผ้าหรือรองเท้า ฯลฯ เพื่อค้นหาสีของหัวใจ หรือเริ่มต้นด้วยสไตล์ที่ชื่นชอบ เช่น ถ้าคุณชอบสไตล์นอร์ดิกที่เรียบง่าย ก็ใช้สีขาวเป็นสีหลัก แทรกด้วยโทนสีธรรมชาติ หรือหาจุดโฟกัสบนผนังสักด้านใส่สีสดๆ ในโทนที่ชอบ อย่างสีเหลือง เขียว หรือน้ำเงิน แล้วลองให้นักออกแบบใช้โปรแกรมตกแต่งห้องใส่สีให้ดูก่อนตัดสินใจ
ห้องนั่งเล่นสไตล์นอร์ดิกที่สว่างขึ้น ไม่เหลือเค้าความมืดทึบด้วยการเจาะช่องแสงขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ให้สัมผัสธรรมชาติอย่างโซฟา โต๊ะลายไม้ ตู้วัสดุปิดผิวลายไม้ โทนสีหลักคือสีขาวแต่เลือกผนังด้านหนึ่งทาสีน้ำเงินให้โดดเด่นเหมือนยกท้องฟ้าเข้ามาเก็บไว้ภายใน
เล่าเรื่องราวในบ้านด้วยสีที่แตกต่างอย่างลงตัว
สีเป็นทางเลือกส่วนตัวและแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ส่วนตัวคุณแม่อาจจะชอบสีเขียวที่ทำให้นึกถึงช่วงฮันนีมูน คุณพ่อชอบอิฐสีแดงที่พาย้อนยุคไปในวัยเด็ก แต่พี่ชายต้องการสีส้มเพราะจับคู่กับจักรยานของเขาได้พอดี จะทำอย่างไรถ้าอยากให้บ้านมีสีของตัวเอง ? นักออกแบบแนะนำว่า กรณีแบบนี้ไม่ควรให้สมาชิกคนหนึ่งคนใดตัดสินเจาะจงเลือกสีเพียงสีเดียว แต่จะให้สมาชิกทุกคนคุยกันเพื่อหาฉันทามติที่อยู่ตรงกลาง เพื่อรองรับความแตกต่างอย่างลงตัว
ตัวอย่างเช่น เลือกสีที่ทุกคนเห็นชอบในพื้นที่ที่ทั้งครอบครัวใช้ร่วมกันมากที่สุดก่อน จากนั้นค่อยๆ ขยายพื้นที่ออกไปทีละนิด เพื่อเพิ่มสีอื่นๆ แทรกตามจุดต่าง ๆ อาทิ ใช้สีที่พ่อชอบเป็นสีผนังหลัก สีที่แม่ชอบนำไปใช้กับโซฟาหรือหมอน สีที่น้องพอใจก็สาดอยู่บนเก้าอี้ โต๊ะ สีที่คุณรักสามารถนำไปใช้ที่ตู้หรือระเบียง เพื่อให้สีของแต่พื้นที่ไม่ได้เป็นเพียงภาพ แต่เป็นความทรงจำของการแบ่งปันความสุขของคนทั้งครอบครัว