
Outdoor living นั่งเล่นสบาย ๆ ไม่ต้องกลัวแดดฝน
เคยสังเกตไหมว่าบ้านสมัยก่อนนั้น นอกจากจะมีตัวเรือนแล้วก็มักจะมีชานยื่นอออกมานอกบ้าน สำหรับให้นั่งพักผ่อนพูดคุยกันยามว่าง บ้านยุคปัจจุบันก็ยังนิยมทำชานในบ้านที่มีบริเวณ แต่บางบ้านที่พื้นที่ค่อนข้างน้อยก็อาจจะย่อส่วนพื้นที่มาเหลือเพียงมุขหน้าบ้าน หรือชานที่ยื่นออกมาประมาณเมตรกว่า ๆ ให้พอออกมานั่งเล่นได้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ด้วยความกว้างของหลังคาที่คลุมออกมาน้อย ทำให้แดดส่องถึง ฝนสาดได้เต็มที่ ส่วนหน้าบ้านนี้จึงมักถูกปล่อยทิ้งอย่างน่าเสียดาย สำหรับคนที่ชอบนั่งเล่นเอาท์ดอร์ลองชมไอเดียการทำพื้นที่ว่างหน้าบ้านที่ใช้งานได้จริง ไม่ต้องทิ้งร้างให้เปล่าประโยชน์ครับ
ออกแบบ : Tim Stewart Architects
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
ชานกว้างหน้าบ้าน ชวนให้ออกมานั่งเล่นรับบรรยากาศ
โครงการบ้านที่ต่อเติมใหม่จากบ้านเดิมหลังนี้ชื่อ ‘Mahara’ ตั้งอยู่ใน Bardon ประเทศออสเตรเลีย เป็นบ้านขนาด 5 ห้องนอน ซึ่งเน้นการออกแบบพื้นที่นั่งเล่นให้มีความเชื่อมต่อ indoor-outdoor อย่างต่อเนื่องลื่นไหล สถาปนิกจึงออกแบบพื้นที่ห้องนั่งเล่นในบ้านให้โปร่งสว่าง มีประตูกระจกบานเฟี้ยมที่พับเก็บได้หมด เปิดผนังออกกกว้าง ส่วนของพื้นปูบล็อกออกต่อออกมาเพื่อทำพื้นที่นั่งเล่นนอกบ้าน โดยทำโครงสร้างหลังคาจากเหล็ก H-Beam ขนาดใหญ่ ซึ่งเหล็กชนิดนี้จะปีกทั้งบนและล่างเป็นแผ่นเรียบหนาเท่ากันตลอด สามารถรับ แรง และ โมเมนต์ได้ดี จึงเหมาะทำเสาและคาน
พื้นที่นั่งเล่นนอกบ้านที่ต่อเพิ่มออกมามากเท่า ๆ กับห้องกว้าง ๆ หนึ่งห้อง ซึ่งสมาชิกในบ้านสามารถใช้พื้นที่นี้ทำกิจกรรมที่ชอบได้เต็มที่
เหนือคานเหล็กขั้นไป สถาปนิกใช้ก้อนคอนกรีตบล็อกมาก่อขึ้นเป็นชั้น ๆ จนถึงขอบคานเหล็กด้านบน โดยวางจังหวะเหลื่อมสลับให้เกิดช่องว่าง เพื่อให้ลมและแสงลอดผ่านได้ และยังทำหน้าที่กรองแสงแดดไปด้วยในตัว สำหรับหลังคานั้นปิดเป็นบางส่วนที่ต้องการปิดป้องจากแดดและฝน แต่บริเวณริมสุดเปิดโล่งเอาไว้ เพื่อรับแดดและฝนให้ลงมาที่สวนเล้ก ๆ ที่จัดเอาไว้ด้านล่าง
ในวันที่อากาศร้อนหรือฝนตกก็ยังออกมานั่งอ่านหนังสือได้สบาย ๆ แต่ในเมืองไทยที่แดดค่อนข้างจัด ก็ต้องศึกษาทิศทางของแสงและอาจจะต้องติดม่านมู่ลี่เพิ่มในบางจุด
มุมนั่งเล่นในบ้าน-นอกบ้าน เชื่อมต่อกันอย่างลื่นไหล
ห้องนั่งเล่น in door ที่เปิดเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น out door ผ่านประตูขนาดใหญ่และผนังกระจก ที่ทำให้บรรยากาศบ้านโดยรอบไม่ถูกตีกรอบด้วยผนังสี่เหลี่ยม มองไปทางไหนก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวนได้อย่างอิสระ
แถมท้ายกันนิดกับโซนด้านในบ้าน ที่จัดแบบ open plan ลดอุปสรรคในการเชื่อมต่อพื้นที่ครัว ห้องทานข้าว และห้องนั่งเล่น โดยการเปิดเป็นห้องโล่ง ๆ แล้วรวมทุกพื้นที่ใช้งานส่วนรวมเข้าด้วยกันในจุดเดียว ทุกส่วนของบ้านจึงเข้าถึงกันได้ง่าย สามารถจัดการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น เต็มไปด้วยความรู้สึกโปร่งสบายใกล้ชิดธรรมชาติ และสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่ายในอนาคต